xs
xsm
sm
md
lg

ส่องชีวิต “อาซาน” เถ้าแก่เรือน้ำโขงเหยื่อ “โจรสลัดหน่อคำ” ปล้นฆ่า 13 ศพสะเทือนสามเหลี่ยมทองคำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ตามส่องคดีใหญ่สะเทือนสามเหลี่ยมทองคำ หลัง “โจรสลัดหน่อคำ” นำกำลังบุกปล้น-ฆ่าลูกเรือจีนกลางน้ำโขง 13 ศพจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ล่าสุดพบอดีตหนุ่มชิปปิ้งจีนเจ้าของเรือ 1 ใน 2 เหยื่อโจรสลัดยังหากินในน้ำโขง แต่หันไปเปิดปั๊มน้ำมันลอยน้ำหนึ่งเดียวกลางทางแทน

แม้วันเวาลาจะผ่านมากว่าครึ่งทศวรรษ เหตุการณ์สะเทือนขวัญกลางน้ำโขงเมื่อ 5 ต.ค. 54 ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำของผู้คน โดยเฉพาะคนที่ทำมาหากินในแม่น้ำโขงตอนบน-สามเหลี่ยมทองคำ เส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญของไทย-พม่า-ลาว-จีน

เมื่อ “โจรสลัดหน่อคำ” ยกกำลังบุกเข้าปล้น-ฆ่า 13 ศพ ลูกเรือจีน 2 ลำ คือ เรือหยู ชิง ปา เห่า และเรือหัวปิง กลางแม่น้ำโขง บริเวณบ้านสามพู จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร ก่อนปล่อยเรือลอยลำมาติดฝั่งไทยจนกลายเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก และรัฐบาลจีนต้องลงมากำกับการแก้ไขปัญหานี้เอง และผลักดันให้เกิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) และออกติดตามไล่ล่ากลุ่มโจรสลัดแม่น้ำโขง จนจับกุมตัวหน่อคำ พร้อมพวกนำไปลงโทษหมดหลังก่อเหตุได้เพียง 1 ปีนั้น

ล่าสุดพบว่า “อาซาน” ชายวัยกลางคนเจ้าของเรือเหยื่อกองกำลัง “หน่อคำ” บุกปล้นครั้งนั้น ได้หันไปเปิดปั๊มเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเรือสินค้าแม่น้ำโขงอยู่ที่ท่าเรือเชียงกก เมืองลอง แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ห่างจากเชียงแสนขึ้นไปทางเหนือประมาณ 106 กิโลเมตร โดยใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่นและผูกมิตรกับคนท้องถิ่นจนกลายเป็นคนลาวอย่างเต็มตัวไปแล้ว

อาซานเล่าว่า ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นเจ้าของหนึ่งในเรือที่ถูกปล้นคือเรือหยู ชิง ปา เห่า เขาทำงานเป็นชิปปิ้งเดินทางไปมาระหว่างจีนตอนใต้-สปป.ลาว-ท่าเรือเชียงแสน อย่างต่อเนื่องนานประมาณ 4 ปี จนฝึกพูดภาษาไทยได้บ้าง จากนั้นจึงได้ลงทุนซื้อเรือสินค้า ให้ผู้ประกอบการค้านำเรือออกไปขนสินค้าอยู่พักใหญ่ แต่ปรากฏว่ามีอยู่วันหนึ่งกลุ่มคนจีนได้นำเรือออกไปขนส่งสินค้าอีกครั้ง และตนมาทราบข่าวภายหลังว่าเรือถูกปล้น-คนในเรือเสียชีวิตหมดแล้ว จึงรู้สึกตกใจมาก

อาซานกล่าวอีกว่า ช่วงที่เป็นคดีความกันอยู่ และทางประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้พยายามคลี่คลายคดี ได้มีการนำเรือของตนไปเก็บเอาไว้ที่ท่าเรือ อ.เชียงแสน หลังจากนั้นอีกนานกว่าตนจะไปดูเรือเพราะเรื่องราวมันรุนแรงมากจึงไม่กล้า จากนั้นตนก็ปล่อยให้เรืออยู่ที่ท่าเรือดังกล่าวโดยไม่ได้ทำอะไรเลย

เพราะไม่รู้ว่าถ้าเรือหลุดคดีแล้วจะทำอย่างไรต่อ จึงได้หันไปอยู่ที่ท่าเรือเชียงกก แล้วประกอบอาชีพเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เรือสินค้าที่แล่นผ่านไป-มาในแม่น้ำโขงแทน ประกอบกับเวลาผ่านมาอีกหลายปี ก็ได้ประกาศขายเรือที่เกิดเหตุปรากฏว่ายังขายได้อีกในราคา 500,000 บาท ตนจึงรีบขาย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเจ้าของใหม่เขาจะเอาไปทำอะไร

อาซานกล่าวถึงการทำงานในปัจจุบันว่า เขานำน้ำมันยี่ห้อเอสโซ่ จากไทยมาจำหน่ายเป็นหลัก เพราะถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ และมีคุณภาพดีกว่าทุกเจ้าที่เขาเคยใช้ เมื่อหักภาษีขาออกจากประเทศไทย และอื่นๆ แล้วสามารถจำหน่ายให้เรือสินค้าได้ในราคาลิตรละประมาณ 20 บาท ซึ่งยืนยันว่าเป็นราคาที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว โดยไม่ได้เจือปนหรือทำให้คุณภาพของน้ำมันลดลงอย่างแน่นอน

ปัจจุบันอาซานพร้อมครอบครัวปักหลักอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว เป็นหลัก โดยมีเรือน้ำมันชื่อ “นาวาสิงดง” จอดลอยลำอยู่ริมฝั่ง ใกล้กับ ศปปข.เชียงกก และท่าเรือส่วนหน้า ศปปข.เชียงกก ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว และตำรวจจีนวางกำลัง-ติดตั้งอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเอาไว้อย่างเข้มงวด เพื่อคอยให้บริการเรือสินค้าแล่นผ่าน และแวะไปเติมน้ำมัน

สถานีเติมน้ำมันในแม่น้ำถือว่าเป็นกิจการที่มีอนาคต เพราะปัจจุบันจุดสถานีเติมน้ำมัน หรือปั๊มน้ำมันเรือแม่น้ำโขงระหว่างไทย-จีน ระยะทางประมาณ 263 กิโลเมตร หากไม่นับรวมปั๊มน้ำมันที่ท่าเรือบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ใกล้ชายแดนไทยแล้ว ก็มีเพียงเมืองท่าเชียงกกแห่งนี้เพียงแห่งเดียว ทำให้เรือเกือบทุกลำต่างแวะเติมน้ำมันกันต่อเนื่อง

สำหรับเหตุการณ์รุนแรงในแม่น้ำโขงดังกล่าวคงเป็นเพียงแค่ฝันร้ายของอาซาน และคนอื่นๆ และคงจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นได้โดยง่ายอีก เพราะปัจจุบันกลุ่มโจรสลัดดังกล่าวถูกดำเนินการไปหมดแล้ว ทั้งยังมี ศปปข.ที่ทางการจีนสนับสนุนด้วยการมอบเรือตรวจการณ์ เรือลาดตระเวน ฯลฯ ให้แก่พม่า และ สปป.ลาว พร้อมจัดวางกองกำลังเอาไว้ตามจุดต่างๆ แล้วทำการร่วมลาดตระเวนตลอดเส้นทางตั้งแต่จีนตอนใต้-สามเหลี่ยมทองคำ ระยะทาง 264 กิโลเมตร อย่างต่อเนื่อง แม้แต่บริเวณบ้านสามพู จุดเกิดเหตุก็คึกคักเต็มไปด้วยเรือสินค้าเช่นกัน






อาซาน ชายวัยกลางเจ้าของเรือเหยื่อกองกำลัง “หน่อคำ” บุกปล้น




กำลังโหลดความคิดเห็น