ลำปาง - ตำรวจเมืองลำปางเตรียมล่าตัวชายสูงวัยตามภาพวงจรปิดเข้ามาหลอกให้วัดจัดงานศพญาติ สั่งซื้อของและยืมเงินก่อนจะเชิดเงินหายไปศพก็ไม่มา
พระครูสมุห์ฐิตะสังวโร เจ้าอาวาสวัดน้ำล้อม เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ชายสูงวัยอายุประมาณ 60-65 ปี ได้เข้ามาติดต่อกับทางวัดว่าจะนำศพแม่ยายมาบำเพ็ญกุศลที่ศาลาภายในวัด ทางวัดจึงได้โทร"เรียกคนดูแลวัดเพื่อมาพูดคุยรายละเอียดกับชายคนดังกล่าว ก่อนจะสั่งของจัดเตรียมสถานที่ให้เรียบร้อยแต่ชายคนดังกล่าวได้หนีไปอีกทั้งยังได้ขอยืมเงินสดหายไปด้วย
น.ส.พรพิมล แปงวงค์ อายุ 42 ปี ชาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็นคนดูแลวัดได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ชายคนดังกล่าวซึ่งแต่งตัวภูมิฐานอ้างตัวเองว่าชื่อ “นำชัย” เป็นเจ้าของโรงงานผลิตรองเท้าส่งออกต่างประเทศอยู่ที่ จ.นนทบุรี ซึ่งได้ติดต่อจะนำศพแม่ยายอายุ 91 ปีที่เสียชีวิตอยู่ที่ รพ.ลำปาง มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัด โดยบอกว่าจะนำศพมาเวลา 13.00 น. ซึ่งตนก็ได้สั่งของต่างๆ ทั้งน้ำดื่ม น้ำแข็ง และเครื่องสังฆภัณฑ์ และเครื่องไทยทาน รวมถึงทำความสะอาดจัดเตรียมสถานที่บริเวณศาลาบำเพ็ญบุญให้เรียบร้อย
นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังได้ยืมเงินสดตนไปอีก 500 บาท โดยอ้างว่าจะนำไปซื้อดอกไม้ที่ตลาดเนื่องจากรอหลานที่ไปกดเงินไม่ไหวต้องไปซื้อดอกไม้ก่อน และได้ให้ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่ตลาดหลักเมืองอีกด้วย
จากนั้นตนก็ได้กลับมาที่วัดรอจนถึงเวลา 16.00 น.ก็ไม่มีศพเข้ามาที่วัดหรือญาติคนอื่นๆ เข้ามาที่วัด ชายคนดังกล่าวก็ไม่กลับมาที่วัดอีกเลย จนกระทั่งไปพบ น.ส.บลู อายุ 24 ปี แม่ค้าขายไอศกรีมที่อยู่ในวัดก็ทราบว่าถูกชายคนดังกล่าวเหมาซื้อไอศกรีมจำนวน 1 ถังมาแจกภายในงานศพ ซึ่งอ้างว่าจะมีเด็กนักเรียนมาช่วยงานกว่า 50 คน โดยตกลงค่าไอศกรีมเป็นเงิน 3,000 บาทแต่ก็ยังไม่ได้จ่ายเงิน และชายคนดังกล่าวก็ได้ยืมเงินไปอีก 500 บาทโดยอ้างว่าจะไปซื้อของแต่ไม่มีเงินติดตัวและบอกว่าญาติกำลังไปถอนเงินเมื่อมาถึงจะนำมาคืนให้พร้อมกับจ่ายค่าไอศกรีม
อย่างไรก็ตาม น.ส.พรพิมล คนดูแลวัด และ น.ส.บลู คนขายไอติม ก็ทราบว่าตนทั้งสองคนถูกหลอกสูญเงินไปรวมกันกว่า 5,000 บาทในการสั่งซื้อของต่างๆ รวมถึงค่าไอศกรีม และเงินสดที่ชายคนดังกล่าวยืมไป จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เพื่อจะได้ติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาทำการสอบสวนและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
กล้องวงจรปิดภายในวัดสามารถจับภาพชายคนดังกล่าวได้อย่างชัดเจน แต่เมื่อสอบถามชาวบ้านในละแวกวัดไม่มีใครเคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อน