ปราจีนบุรี - รถพ่วง 18 ล้อเร่งแซง ชนประสานงารถจักรยานยนต์ที่วิ่งขับแซงเช่นกัน ลากทั้งคนทั้งรถไกล 50 เมตร เสียชีวิตคาที่ กลางถนนปราจีนบุรี
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 พ.ย. ร.ต.อ.ถิระวัฒน์ เยี่ยมอ่อน ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ปราจีนบุรี ว่า เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนกับรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 3069 ปราจีนบุรี-ศรีมหาโพธิ ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 7-8 ใกล้กับวัดสง่างาม หมู่ที่ 4 ตำบลท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ของบริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ จำกัด ยี่ห้อ HOWO รุ่น SINOTRUK สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียนส่วนหัว 81-8416 ปราจีนบุรี หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 81-6650 ปราจีนบุรี เสียหลักข้ามฝั่งมาจอดอีกฝั่งถนน บริเวณด้านหน้ารถมีสภาพพังเสียหาย ใต้ท้องรถช่วงหัวลากพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กจ 7570 ปราจีนบุรี พังยับเยินเป็นเศษเหล็กติดคาใต้ท้องรถ พบร่างผู้เสียชีวิตซึ่งทราบว่าเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวบริเวณใกล้เคียงด้านหน้ารถพ่วง นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อต่อมาคือนายอนุสรณ์ จันทร์เสวก อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 3 ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นพบร่องรอยการชน และเบรกเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร
ในเวลาต่อมา แพทย์เวรได้เดินทางมาชันสูตรพลิกศพ พบว่า บริเวณศีรษะถูกรถทับอย่างจัง เช่นเดียวกับตามลำตัว แขน ขา จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรโดยละเอียด และเย็บตกแต่งบาดแผลที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
สำหรับผู้ขับขี่รถพ่วง 18 ล้อ ทราบชื่อคือ นายอนุพงศ์ ศุภศร อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 149/1 หมู่ 14 ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งในขณะเกิดเหตุได้หลบอยู่ในรถพ่วงอีกคันที่จอดอยู่ห่างออกไป ซึ่งตนเองไม่กล้าลงมาจากรถ เกรงจะถูกญาติผู้เสียชีวิตทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี
ซึ่ง นายอนุพงศ์ ให้การว่า ตนเองขับรถมาถึงที่เกิดเหตุแล้วได้เร่งเครื่องเพื่อที่จะขับแซงรถคันหน้า จังหวะเดียวกันรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตที่ขับสวนทางมาก็ขับแซงขวาขึ้นมาเช่นเดียวกัน จึงทำให้เกิดการชนกันเสียงดังสนั่นจนทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนโดยละเอียด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป