บุรีรัมย์ - สพม.32 บุรีรัมย์ตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงครูฉาวใช้ไม้เรียวตีทำโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ทั้งส่งคลิปโป๊ข้อความลามกอนาจาร และขอมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิง ม.2 หลังผลสอบพบมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศเด็กจริง ทั้งออกหนังสือคำสั่งให้ครูย้ายออกจากพื้นที่จนกว่าผลสอบแล้วเสร็จ
วันนี้ (15 พ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานข้อความบทสนทนาผ่านไลน์ ซึ่งมีเนื้อหาลามกอนาจาร รวมถึงคลิปโป๊ที่สนทนากับลูกสาว และรูปถ่ายร่องรอยที่ลูกถูกครูตีก้นจนเขียวช้ำ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อให้สอบเอาผิด นายเนิ้ม (ขอสงวนนามสกุล) ครูสอนวิชาสุขศึกษา และพลศึกษา หลังทนกับพฤติกรรมของครูคนดังกล่าวไม่ไหว โดยผู้ปกครองที่มาร้องเรียนกล่าวหาว่าครูเนิ้มทำโทษเด็กนักเรียนเกินกว่าเหตุโดยการใช้ไม้เรียวตีก้นเด็กนักเรียนชั้น ม.2 เกือบทั้งห้อง คนละตั้งแต่ 100-300 ครั้ง สาเหตุที่เด็กถูกทำโทษเพียงเพราะลืมเอาสมุดหนังสือวิชาของครูมาโรงเรียน บางคนไม่ได้ห่อปกสมุดหนังสือมา และพฤติกรรมที่ผู้ปกครองยอมรับไม่ได้ที่สุดคือ ครูส่งคลิปโป๊ และข้อความลามกอนาจารมาในไลน์ ทั้งยังขอมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดหลังจาก นางปติมา กาญจนากาศ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 (สพม.32) บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้นิติกร นักจิตวิทยา รวมถึงเจ้าหน้าที่กลุ่มงานศึกษานิเทศก์ประจำเขตลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงยังโรงเรียนที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบปากคำนักเรียนหญิงที่ครูส่งคลิปโป๊ให้และขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย รวมถึงหลักฐานบทสนทนาทางไลน์ พบว่าครูที่ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกศิษย์จริง
รวมทั้งจากการสอบพยานแวดล้อมและนักเรียนอีกหลายคนที่ถูกครูคนดังกล่าวทำโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตี ให้ข้อมูลตรงกันว่าได้ถูกครูใช้ไม้เรียวตีคนละ 100-300 ครั้งจริง สาเหตุเพราะไม่ได้เอาสมุดหนังสือมา และไม่ได้ห่อปกสมุดหนังสือตามที่ครูสั่ง ครูจึงทำโทษตามจำนวนหน้าหนังสือ ซึ่งผลการสอบเบื้องต้นพบมีมูลความจริงตามที่มีการร้องเรียน
สพม.32 ในฐานะต้นสังกัดจึงได้สั่งตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงครูคนดังกล่าว พร้อมทั้งให้ออกหนังสือคำสั่งย้ายครูออกจากพื้นที่โดยให้มีผลภายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งการออกคำสั่งย้ายดังกล่าวเพื่อความสบายใจและเป็นธรรมแก่ฝ่ายผู้ร้อง โดยการตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงจะให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และหากพบข้อมูลหลักฐานกระทำผิดชัดเจนจะพิจารณาโทษสถานหนักคือไล่ออก เนื่องจากพฤติกรรมคุกคามทางเพศลูกศิษย์ถือเป็นความผิดร้ายแรง
ส่วนครูที่ถูกกล่าวหาขณะนี้ยังไม่ได้ทำการสอบปากคำ เนื่องจากหลังที่ผู้ปกครองเข้าร้องเรียนไม่พบครูมาที่โรงเรียน ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงจัดแข่งขันกีฬาภายในโรงเรียนด้วย ส่วนเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 ยังมาโรงเรียนตามปกติ แต่มีอาการวิตกกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น
