อุทัยธานี - ปลาวังมัจฉา เขตอภัยทานวัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ตายเกลื่อน เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดแวดล้อมภาค 4 รุดตรวจสอบคุณภาพน้ำ พร้อมทั้งสั่งปิดการให้อาหารปลาชั่วคราว
วันนี้ (15 พ.ย.) พระครูสมุห์ละออง ธัมจาโร พระผู้ดูแลปลาวังมัจฉาเขตอภัยทาน วัดจันทาราม หรือวัดท่าซุง หรือวัดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ต.น้ำซึม อ.เมืองอุทัยธานี นำคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 4 นครสวรรค์ ล่องเรือในแม่น้ำสะแกกรังเพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ หลังจากพบว่าช่วงที่ผ่านมาปลาในวังมัจฉาลอยคอตายเป็นจำนวนมาก
พระครูสมุห์ละออง ธัมจาโร บอกว่า หลังปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ระดับน้ำในแม่น้ำสะแกกรังก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งคืนที่ผ่านมา (14 พ.ย.) ระหว่างที่ได้เข้ามาตรวจดูบริเวณวังมัจฉา เขตอภัยทานของวัด ซึ่งเป็นแพให้อาหารปลาสำหรับนักท่องเที่ยว พบปลาลอยคอตายจำนวนมาก ทั้งปลาเทโพ ปลาสวาย ปลาแรด ปลาบึก ปลาสังคะวาด เป็นต้น
จนต้องระดมพระสงฆ์ ลูกศิษย์วัด และชาวบ้าน ช่วยกันนำปลาที่ตายขึ้นมา ซึ่งมีน้ำหนักรวมกว่า 1 ตัน ส่วนใหญ่เป็นปลาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์แทบทั้งสิ้น เพื่อเอาไปหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพ และปิดวังมัจฉา-งดให้อาหารปลา และต้องเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดชนิดวันต่อวันจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติและไม่มีปลาลอยขึ้นมาตายอีก
ส่วนสาเหตุที่ปลาตายยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากภาวะน้ำเริ่มเน่าเสีย เพราะปริมาณน้ำไม่ไหลเวียน รวมทั้งมีสิ่งปฏิกูล หญ้าเน่า สารเคมีไหลลงสู่แม่น้ำ ทำให้น้ำขาดออกซิเจนจนปลาตายดังกล่าว
ด้านนายสรายุธ บุญขัน ผู้อำนวยการควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 4 นครสวรรค์ กล่าวว่า ได้นำเจ้าหน้าที่สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำทั้งหมด 3 จุด ก็คือ ก่อนเข้าบริเวณแพให้อาหารปลาวังมัจฉา, บริเวณวังมัจฉา และบริเวณเลยจุดให้อาหารปลาไป ก็คือ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มาตรวจวิเคราะห์ระดับออกซิเจนในน้ำ
เบื้องต้นจากการตรวจวัดต้นน้ำและปลายน้ำมีค่าประมาณ 3.4-3.6 เป็นค่ามาตรฐานเท่ากันทั้งลำน้ำ แต่ปัญหาก็คือบริเวณแพจุดให้อาหารปลา บริเวณนี้วัดได้เพียง 1.6 ซึ่งเป็นค่าค่อนข้างน้อย แสดงว่ามีการไหลเวียนของน้ำน้อย ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากการที่น้ำจากพื้นที่การเกษตรไหลลงมาทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมลง ต้องรอเวลาในการฟื้นฟู ส่วนวิธีการแก้ปัญหาก็คือ ต้องเพิ่มออกซิเจนบริเวณนี้น่าจะช่วยได้