แขวงทางหลวงประจวบฯ รับฟังความเห็นด้านการปรับปรุงทางเท้าเพิ่มความปลอดภัย

ประจวบฯ - แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เปิดเวทีรับฟังและแสดงความคิดเห็นงานปรับปรุงภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงซอยหัวหิน 51 ถึง รพ.กรุงเทพหัวหิน ระยะทาง 3 กิโลเมตร เป็นครั้งแรก

วันนี้ (14 พ.ย.) นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานเปิดเวทีรับฟังและแสดงความคิดเห็นงานปรับปรุงภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรมทางหลวงหมายเลข 4 ตอนห้วยทราย-วังยาว ระหว่างซอยหัวหิน 51 ถึงโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ระยะทาง 3 กิโลเมตร ซึ่งจัดโดยแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) สำนักงานทางหลวงที่ 15 (ประจวบคีรีขันธ์ ) ณ ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายอภิชาต ชาญธัญกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) น.ส.ไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

จุดประสงค์สำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องต่อโครงการก่อสร้างฯ ได้ร่วมรับฟังข้อมูลข่าวสาร แสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องในแนวทางเดียวกัน และให้งานก่อสร้างสำเร็จลุล่วงได้ตามแผนงาน

โดยในปีงบประมาณ 2561 แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) มีโครงการปรับปรุงทางเท้าในเขตพื้นที่ปกครองเทศบาลเมืองหัวหิน ประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข 4 ตอนห้วยทราย-วังยาว ระหว่าง กม.216+500-กม.219+500 ช่วงซอยหัวหิน 51 หรือซอยถนนตก ถึงโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะทำการก่อสร้างปรับปรุงทางเท้าความกว้าง 2-5 เมตร พร้อมแนวรั้วทางเดินเพื่ออำนวยความสะดวก และยกระดับความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทางเท้า อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองหัวหิน

สำหรับการประชุมในวันนี้ ได้มีการชี้แจงถึงแนวคิดลายพื้นทางเดิน ซึ่งเน้นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 4 แบบ คือ ลายสับปะรด ลายทุเรียนป่าละอู ลายเรือใบ และลายฟองคลื่น สำหรับแนวรั้วทางเดินจะมี 4 ทางเลือกด้วยกัน คือ รั้วโปร่งทำจากเหล็กชุบสังกะสี รั้วเหลืองแดงทำจากเหล็กทาสี รั้วเหล็กดัดทำจากสเตนเลส และรั้วกระถางต้นไม้ต้นไม้จัดวางเรียงกระถางต้นไม้ตามแนวริมทางเดินให้เป็นระเบียบ ก่อนเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียได้แสดงความคิดเห็น เนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยในจุดก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นตึกแถวประกอบกิจการค้าขายซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งอาจจะกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และการทำมาหากินของชาวบ้านได้

โดยแขวงการทางประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) จะนำข้อมูลที่ได้ไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการชี้แจงในการเปิดเวทีรับฟัง และแสดงความคิดเห็นครั้งต่อไป