บุรีรัมย์ - ญาติที่ยืมเงินแม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวบุรีรัมย์ 2 แสนเพื่อนำไปจ่ายค่ามัดจำรถ แต่ส่งเลขบัญชีให้ผิดจนมีการโอนเงินผิดไปเข้าบัญชีเสี่ยเต็นท์รถมือสองที่ จ.สมุทรปราการ ได้แสดงความรับผิดชอบคืนเงิน 2 แสนให้แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวแล้ว เพราะเป็นคนยืมและส่งบัญชีให้ผิด ด้านแม่ค้ายันไม่แจ้งความเพราะได้เงินคืนแล้ว
วันนี้ (13 พ.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ณทชา อยู่ประพัต อายุ 42 ปี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณสี่แยกยืนยง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือจำนวน 200,000 บาทผิดบัญชี โดยตั้งใจจะโอนให้กับญาติที่ขอยืมเพื่อไปลงทุนทำธุรกิจเมื่อวันที่ 7 ต.ค. และ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ญาติส่งหมายเลขบัญชีมาผิด เมื่อตรวจสอบกับทางธนาคารพบว่าเงินที่โอนไปเข้าบัญชีของนายมงคล เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถสิบล้อที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
หลังทราบว่าโอนเงินไปผิดบัญชี น.ส.ณทชา ได้สอบถามไปยังญาติว่ารู้จักกับเสี่ยเต็นท์รถคนดังกล่าวหรือไม่ ได้รับคำตอบว่ารู้จัก เพราะเคยทำธุรกิจซื้อขายรถด้วยกัน จากนั้นทั้งสองจึงได้พยายามทวงถามเงินจากเสี่ยเต็นท์มาตลอด จนเวลาผ่านไปนานกว่า 2 เดือน เสี่ยเต็นท์ยังบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินให้นั้น
ล่าสุด น.ส.ณทชา แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยว ได้ออกมาระบุว่า เมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) นายเล็ก อรรคมุต ญาติที่ขอยืมเงินจำนวน 2 แสนบาทเพื่อนำไปจ่ายค่ามัดจำในการซื้อขายรถ ได้นำเงิน 2 แสนบาทมาคืนให้แล้ว โดยบอกว่าในฐานะที่เป็นคนยืมเงินและส่งหมายเลขบัญชีธนาคารให้ผิดจึงขอแสดงความรับผิดชอบนำเงินมาคืนให้ ส่วนเรื่องการติดตามเงินคืนจากเสี่ยเต็นท์รถ นายเล็กบอกจะเป็นผู้เดินเรื่องติดตามทวงถามเองเพราะไม่อยากให้ตนต้องมาเดือดร้อน และเห็นใจ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องตนแทบจะไม่มีเวลาขายก๋วยเตี๋ยว ทั้งมีแต่คนมาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดจนทำให้ไม่มีสมาธิในการทำมาหากิน
น.ส.ณทชาบอกด้วยว่า ขอขอบคุณนายเล็กที่แสดงความรับผิดชอบนำเงินมาคืนให้ โดยยอมรับว่าหลังเกิดเรื่องก็กังวลนอนไม่หลับ เพราะไม่รู้ว่าเสี่ยเจ้าของบัญชีที่ตนโอนเงินไปผิดจะยอมคืนเงินหรือไม่ เพราะผ่านมา 2 เดือนแล้วยังเงียบ แต่พอนายเล็กนำเงินมาคืนก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะลำพังตัวเองมีอาชีพค้าขายไม่อยากมีเรื่องมีราวต้องเป็นคดีความจะทำให้เสียเวลาขายของ และยืนยันว่าจะไม่แจ้งความดำเนินคดีเพราะได้เงินคืนแล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของนายเล็กต่อไป
