สุรินทร์ - พระ และชาวบ้านสำโรงทาบ เมืองช้างเศร้า เพลิงไหม้ศาลาการเปรียญอายุนับ 100 ปี พร้อมกุฏิวัดหลังใหญ่ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท วอดในเวลาไม่ถึงชั่วโมงโดยไม่มีทางดับเพลิงได้ หลังเพลิงสงบต้องตะลึง พบพระพุทธรูปนับสิบองค์ไฟไม่ไหม้ พร้อมธงชาติไทยอีก 2 ผืน
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต.อ.ประดิษฐ์ ผาสุข ร้อยเวรสอบสวน สภ.สำโรงทาบ ได้รับแจ้งจากพระสงฆ์วัดหมื่นศรีน้อย บ้านหมื่นศรี ต.หมื่นศรี อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ว่าเกิดเหตุไฟไหม้ศาลาการเปรียญวัดยกสูงขนาดสองชั้น และกำลังลุกลามไปยังกุฏิวัดหลังใหญ่อีกหลัง ขอให้เจ้าหน้าที่ประสานรถน้ำเข้ามาช่วยดับไฟที่กำลุกไหม้ศาลาการเปรียญเป็นการด่วน
หลังรับแจ้งได้ประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลสำโรงทาบ, องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หมื่นศรี, อบต.เกาะแก้ว, อบต.ศรีสุข, อบต.หนองไผ่ล้อม และตำบลใกล้เคียง เดินทางเข้าไปช่วยดับเพลิง แต่ไม่สามารถดับได้เพราะไฟไหม้รุนแรง มีลมกระโชกแรงเป็นระยะๆ ก่อนไฟได้ลุกลามไหม้กุฏิหลังใหญ่ที่มีพระจำวัดเพียงหนึ่งรูป แต่พระได้ออกมาจากกุฏิแล้วจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากนั้นเพียงไม่ถึงชั่วโมงไฟได้เผาไหม้ศาลาการเปรียญ และกุฏิวัด รวมทั้งทรัพย์สินมีค่า สิ่งของเครื่องใช้ในกิจสงฆ์และพระพุทธศาสนาต่างๆ เสียหายทั้งหมด
โดยเฉพาะศาลาการเปรียญวัดที่มีอายุเก่าแก่นับร้อยปี ก่อสร้างยกสูงเป็นศาลาไม้ที่หายาก มูลค่าก่อสร้างกว่า 5 ล้านบาท พร้อมด้วยกุฏิสงฆ์หลังใหญ่ ก่อสร้างมาด้วยเงินบริจาคทำบุญของชาวบ้านนับล้านบาท ถูกไฟไหม้ทั้งหมดเช่นกัน รวมสิ่งของมีค่า อัฐบริขารต่างๆ ของสงฆ์ และทรัพย์สินของวัดอื่นๆ ที่ถูกไฟไหม้ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ขณะเกิดเหตุมี พระอธิการวิโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัด พร้อมด้วย พระสัง สันติวโร และ พระปอง ฐานุตตโร ได้จำวัดอยู่ที่กุฏิอีกหลัง
พระสัง สันติวโร บอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ได้ยินเสียงดังมาจากศาลาการเปรียญหลังใหญ่ เห็นไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ได้เรียกเจ้าอาวาส พร้อมด้วยพระอีกรูปตื่นขึ้นมาช่วยกันแจ้งเหตุไฟไหม้ ให้ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ อบต.มาช่วยดับเพลิง แต่ดับไม่ได้เพราะไฟไหม้รุนแรงมาก ไม่ถึงชั่วโมงทุกอย่างถูกไฟไหม้หมด และทรัพย์สินมีค่าต่างๆ เสียหายทั้งหมด
อย่างไรก็ตามปรากฏว่าที่บริเวณโต๊ะหมู่บูชาที่ตั้งพระพุทธรูปนับ 10 องค์บนศาลาการเปรียญวัดไฟกลับไม่ไหม้ และมีเศษฝ้าเพดานที่ถูกไฟไหม้หล่นลงมาปิดพระประทานเอาไว้ แต่ไม่มีร่องรอยไฟไหม้แต่อย่างใด ขณะที่ธงชาติไทยอีก 2 ผืน ติดตั้งอยู่ประตูกระจกทางเข้าศาลาการเปรียญม่ถูกไฟไหม้เช่นกัน นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์หรือแปลกมาก ทั้งที่เกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงมาก
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่วัดบ้านหมื่นศรีน้อยอย่างละเอียด โดยสอบถามสาเหตุเบื้องต้นจากพระอธิการวิโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัด และตรวจสอบจุดที่คาดว่าจะเป็นต้นเพลิงบริเวณสะพานไฟบนศาลาการเปรียญวัด เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ด้านชาวบ้านที่ทราบข่าวได้ทยอยเดินทางมาดูศาลาการเปรียญวัดและกุฏิวัดที่ถูกเพลิงไหม้ และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียดายศาลาการเปรียญวัดและกุฏิวัด รวมทั้งทรัพย์สินสิ่งของมีค่าทั้งหมด เพราะใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะร่วมกันบริจาคเงินทำบุญและก่อสร้างแล้วเสร็จ
