xs
xsm
sm
md
lg

เยียวยาแพะ! มอบอุปกรณ์ขายกาแฟ หนุ่มนครพนมติดคุกฟรี 7 เดือน คดีฉกเพชร 15 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม - กระทรวงยุติธรรมรุดเยี่ยมหนุ่มนครพนม มอบอุปกรณ์ร้านขายกาแฟชื่อ"แพะชิงเพชร"ให้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน หลังติดคุกฟรีกว่า 7 เดือน คดีขโมยเพชรมูลค่า 15 ล้านบาทจากผู้เสียหายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งย่านบางแวก ทั้งที่ในวันเกิดเหตุขายหมูปิ้งอยู่นครพนม ก่อนได้รับอิสรภาพเมื่อความจริงกระจ่าง
นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ เหยื่อติดคุกฟรีในคดีขโมยเพชร 15 ล้านบาท
วันนี้ (10 พ.ย. 60) ดร.ชาติชาย โทสินธิติ หัวหน้าสำนักงานรองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ประกอบด้วยนายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม, นายเดชา แจ่มจันทร์ ผบ.เรือนจำกลางนครพนม, นางสุจินดา ศรีวรขาน รักษาราชการแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม, นายประเวศ กันสุข ยุติธรรมจังหวัดนครพนม เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจ นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อายุ 48 ปี พ่อค้าข้าวเหนียวหมูปิ้ง อดีตผู้ต้องหาคดีขโมยเพชร มูลค่า 15 ล้านบาท ณ บ้านเลขที่ 1 ซอยสุขาวดี ชุมชนกกต้อง เขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมกับมอบร้านกาแฟร้าน “แพะชิงเพชร” โดยได้รับการอนุเคราะห์จากผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ ศูนย์ร้อยเอ็ด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือประกอบอาชีพ หลังศาลธนบุรียกฟ้องคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา และมอบใบประกาศเกียรติบัตรแก่พยานในคดีนี้จำนวน 17 ราย นอกจากนี้ยังมีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ผู้อ้างว่าเป็นแพะคดีขับรถชนคนตายมาร่วมแสดงความยินดีด้วย

นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ ผู้ต้องหาที่ได้รับการยกฟ้องคดีดังกล่าวเปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่มีหน่วยงานต่างๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ตลอดเวลาที่อยู่ในเรือนจำ 7 เดือน 10 วัน มีความเชื่อมั่นว่า ตนไม่ได้กระทำผิด จะต้องได้รับความยุติธรรม ตอนเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็เหมือนนักโทษทั่วไป กว่าจะทำใจได้ใช้เวลากว่า 2 เดือน ภายหลังทางเรือนจำทราบเรื่องราวของตน ก็ผ่อนคลายกฎระเบียบ พร้อมให้กำลังใจตลอดเวลา นับจากนี้ชีวิตครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้าลูกเมียเหมือนเดิมก็มีความสุขแล้ว และจะไม่ฟ้องร้องผู้ที่ทำให้ตนสิ้นอิสรภาพ เชื่อว่ากรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนอง

สำหรับคดีแพะชิงเพชรนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2560 ขณะที่นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ ขายของอยู่ที่บ้านเช่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่ามาจาก สน.บางเสาธง ถือหมายจับเข้าควบคุมตัวไปเค้นสอบในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลหนองญาติ อ.เมืองนครพนม เพื่อให้รับว่าเป็นผู้ไปขโมยเพชรมูลค่า 15 ล้านบาท โดยอ้างว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.59 มีเจ้าทุกข์ไปแจ้งความว่านายพิสิษฐ์เป็นคนร้าย วิ่งราวทรัพย์เพชรมูลค่า 15.8 ล้านบาท จากผู้เสียหายภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงซิมการ์ดของคนร้ายที่จดทะเบียนในชื่อนายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์

ในวันนั้นมีพยานยืนยันว่านายพิสิษฐ์ขายข้าวเหนียว หมูปิ้ง ไก่ทอด อาหารสำเร็จรูป อยู่บ้านในซอยสุขาวดี เขตเทศบาลเมืองนครพนม และยังมีพยานเป็นนิติกรท้องถิ่นจังหวัดนครพนมมาขอยืมเตากับนายพิสิษฐ์ เพื่อไปย่างเนื้อในงานวันปีใหม่ นอกจากนี้ยังมีอดีตสาธารณสุขที่มาฉีดยาบรรเทาอาการโรคกระเพาะอาหาร ถึงบ้านพัก และเพื่อนบ้านอีกเกือบ 20 คน ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน เป็นหลักฐานหนาแน่นทำให้วันที่ 26 ก.ย.60 ศาลธนบุรีได้พิพากษายกฟ้องคดีดังกล่าว นายพิสิษฐ์จึงหลุดพ้นข้อกล่าวหาขโมยเพชร

ขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คือ น.ส.ดารีวรรณ พ่อวงค์ ภรรยาวัย 47 ปี อาชีพช่างเสริมสวย เป็นผู้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อดีเอสไอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอลงพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง จนมั่นใจว่านายพิสิษฐ์เป็นแพะคดีนี้แน่นอน จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเต็มที่ นำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาหักล้างข้อกล่าวหา ทำให้นายพิสิษฐ์ได้รับอิสรภาพดังกล่าว หลังศาลพิพากษายกฟ้องยังไม่มีเจ้าหน้าตำรวจแสดงความรับผิดชอบใดๆ ที่จับคนผิดจนต้องติดคุกนานถึง 7 เดือนกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น