ศูนย์ข่าวศรีราชา - รพ.สมเด็จฯ ณ ศรีราชา ขอใช้พื้นที่ทางสาธารณะบริเวณชุมชนบ้านใน ก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียบริเวณใต้ดิน หลังก่อสร้างเสร็จประชาชนจะใช้สัญจรเข้าออกได้ตามปกติ และเพิ่มเส้นทางเข้าออกระหว่างโรงพยาบาล และชุมชนอีก 1 จุด
วันนี้ (8 พ.ย.) นายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา และนายแพทย์ธเนศ จัดวัฒนกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือ กรณีโรงพยาบาลสมเด็จฯ จะขอใช้พื้นที่ทางสาธารณะบริเวณชุมชนบ้านในก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลสมเด็จฯ โดยร่วมประชุมหารือประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นได้ลงพื้นที่จริง
นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวทางโรงพยาบาลสมเด็จฯ ได้ยื่นเรื่องขออนุญาตไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อขอใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ในการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอำเภอศรีราชา และเทศบาลเมืองศรีราชา โดยสั่งให้เจ้าของพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด
โดยจากการร่วมกับตรวจสอบ พบว่า การก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียนั้นอยู่ด้านล่างใต้ดิน ส่วนพื้นที่ด้านบนเป็นทางสาธารณะ แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จก็เป็นเส้นทางเข้าออกโรงพยาบาล และชุมชนอีกเส้นทางหนึ่ง โดยประชาชนไม่ต้องไปแออัดจุดเข้าออกเพียงจุดเดียวในปัจจุบันนี้ นอกจากนั้น บ่อบำบัดนำเสียดังกล่าวเป็นระบบที่ทันสมัย และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน
นายธานี กล่าวต่อไปว่า สำหรับที่สาธารณะบริเวณนี้เป็นถนนที่เทศบาลฯ สร้างไว้เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรผ่านไปมา แต่เนื่องจากประชาชนใช้สัญจรน้อย เพราะเป็นทางตัน โดยติดรั้วกำแพงของโรงพยาบาล แต่เมื่อโรงพยาบาลสร้างเสร็จก็จะเปิดเส้นทางดังกล่าวสามารถสัญจรได้สะดวกขึ้น
ด้าน นายนิติ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาลนั้น ซึ่งจากการตรวจแล้ว จะมีปัญหาในช่วงก่อสร้างเล็กน้อย แต่เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงแต่อย่างใด และประชาชนสามารถสัญจรผ่านไปมาได้อีกเส้นทางหนึ่ง ระหว่างโรงพยาบาลกับชุมชน ซึ่งจะเกิดประโยชน์มากในอนาคต และหลังจากนี้ จะรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบอีกครั้ง
นายแพทย์ธเนศ กล่าวว่า สำหรับบ่อบำบัดน้ำเสียดังกล่าวเป็นระบบโอโซนที่ทันสมัย โดยสามารถนำน้ำจากการบำบัดมารดน้ำต้นไม้ และใช้กับรถดับเพลิงได้ ซึ่งการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ถูกระเบียบ และข้อกฎหมาย จึงประสานกับนายอำเภอศรีราชา และนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา เพื่อลงพื้นที่จริงร่วมกันตรวจสอบ และจากการตรวจสอบของคณะกรรมการแล้วพบว่า ไม่เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
สำหรับพื้นที่ก่อสร้างนั้นกว้างประมาณ 4 เมตร ยาว 24 เมตร บนพื้นที่สาธารณประโยชน์ และเมื่อสร้างแล้วเสร็จก็สามารถกลับมาใช้เส้นทางดังกล่าวได้ตามปกติ และจะสะดวกเพิ่มขึ้น