มหาสารคาม - หลายภาคส่วนระดมกำลังเร่งนำอุปกรณ์เข้าซ่อมแซมจุดที่พนังกั้นน้ำชีขาด ซึ่งผ่านมาแล้ว 3 วันยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ ชี้หากซ่อมไม่ได้อย่างน้อย 9 หมู่บ้าน 900 หลังคาเรือนจมน้ำ นาข้าวเสียหายนับหมื่นไร่
ชาวบ้าน ทหาร กลุ่มผู้ใช้น้ำเขื่อนระบายน้ำวังยาง และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ร่วมกันกรอกกระสอบทรายเพื่อเตรียมนำไปใช้วางในจุดที่พนังกั้นแม่น้ำชีขาด ช่วงบริเวณถนนระหว่างสถานีสูบน้ำเขื่อนวังยางไปยังบ้านท่าตูม ต.ท่าตูม อ.เมืองมหาสารคาม พร้อมนำรถไถปรับเกรดทางเข้าจุดที่พนังขาดเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการขนและลำเลียงวัสดุอุปกรณ์เข้าไปที่หน้างาน
ชาวบ้านได้ร่วมกันกรอกกระสอบทรายจำนวนกว่า 5,000 กระสอบ และเตรียมการวางบิ๊กแบ็กในจุดที่พนังขาด โดยต้องทำการปักไม้ยูคาลิปตัสเป็นแนวให้วางกระสอบทรายลงไปในน้ำเพื่อปิดทางในจุดที่เสียหาย ซึ่งอุปสรรคที่สำคัญคือ เส้นทางดังกล่าวเป็นทางแคบ รถเครื่องจักรหนักไม่สามารถเข้าถึงในพื้นที่ได้ ต้องใช้กำลังคนแบบกองทัพมด หรือรถกระบะเล็กขนย้ายกระสอบทรายเข้าไปในพื้นที่ ทำให้การดำเนินการล่าช้า
ทั้งนี้ หากยังไม่สามารถซ่อมแซมพื้นที่ตรงนี้ได้ก็จะส่งผลให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ 9 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านหนองข่า หมู่ 5 หมู่ 10 บ้านหนองคู หมู่ 8 บ้านหนองโดน หมู่ 1 บ้านอ้อยช้าง หมู่ 7 บ้านท่าตูม หมู่ 3 บ้านท่าตูมวารินทร์ หมู่ 9 บ้านดอนเรือ หมู่ 6 และบ้านโปโล หมู่ 4 รวมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบกว่า 900 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรอีกไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่
ด้าน นายเสน่ห์ นนทะโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง จะได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน จุดดังกล่าวมีมวลน้ำไหลผ่านประมาณ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะมีพื้นที่การเกษตรเสียหายเพิ่มเติมอีกประมาณ 6,000 ไร่ ภาพรวมทั้งตำบลมีพื้นที่เสียหายกว่า 30,000 ไร่
น้ำที่ไหลทะลักลงมาจะไหลกลับลงมายังลำน้ำชีทางด้านท้ายเขื่อนวังยางเช่นเดิม โดยจะไหลผ่านทุ่งไปลงที่ประตูระบายน้ำกุดเชียงสา และประตูระบายน้ำกุดเชียงบัง