จันทบุรี - เกิดพายุลมแรง พัดต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้าน สวนผลไม้ทุเรียน กล้วยน้ำว้า มะละกอ และสวนยาง ใน 3 หมู่บ้าน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ล้มหักโค่นเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่เทศบาลตำบลบ่อเวฬุเร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
วันนี้ (4 พ.ย.) นายบัญทูล ศรีสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า มีพายุลมแรงพัดต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้าน สวนผลไม้ใน 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 7 ถูกแรงลมพัดต้นล้มหักโค่นเสียหายเป็นวงกว้าง ขอให้ทางเทศบาลตำบลบ่อเวฬุได้เข้ามาสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือชาวบ้านด้วย
หลังรับแจ้ง นายบัญทูล ศรีสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าเป็นสวนยางพารา ภายในสวนยางพาราพบบ้านปูนถูกต้นไม้ล้มทับได้รับความเสียหายทั้งหลัง นอกจากนี้ หลังคาเหล็กยังได้ล้มทับรถแบ็กโฮที่จอดไว้หน้าบ้านได้รับความเสียหาย 1 คัน ทั้งนี้ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน
ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านของ นางวรรณี ธะนะปัญญาสิริ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ที่ 1 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ในเบื้องต้น นางสาวเมตตา สายโสน เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ ต้องนำเลื่อยยนต์มาทำการตัดต้นไม้ใหญ่ที่ล้มทับบ้านออก หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็สามารถที่จะตัดต้นไม้ใหญ่ออกจากบ้านหลังดังกล่าวได้สำเร็จ
นอกจากนั้น ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 4 และ หมู่ที่ 7 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี มีต้นทุเรียน สวนยางพารา กล้วยน้ำว้า และมะละกอ ล้มหักโค่นเสียหายเป็นวงกว้าง เบื้องต้น นายบัญทูล ศรีสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ ได้รายงานให้ทางจังหวัดได้รับทราบแล้ว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะได้เข้าสำรวจความเสียหายและเตรียมให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่อไป
ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ในช่วงบ่ายได้เกิดพายุลมแรงพัดเข้ามาในสวนของตนเอง ก่อนที่แรงลมจะหอบเอาต้นกล้วย ต้นทุเรียน ล้มหักโค่นเสียหาย หลังลมสงบก็ได้เข้าสำรวจก็พบว่าสวนผลไม้ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ก่อนที่ชาวบ้านจะโทร.แจ้งให้ทางเทศบาลตำบลบ่อเวฬุ ได้ลงพื้นที่มาสำรวจและให้การช่วยเหลือดังกล่าว