กาญจนบุรี - ฮือฮา เจ้าหน้าที่สวนป่าทองผาภูมิ พบ “แม่แปรก” ผู้ปกป้องลูกช้างในโขลงอย่างสุดกำลัง แม้จะแลกด้วยชีวิต
วันนี้ (3 พ.ย.) นายเสด็จ ฮุยอวน หัวหน้าสวนป่าทองผาภูมิ หมู่ 6 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สวนป่าทองผาภูมิ เป็นสวนป่าในสังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคกลาง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ได้ดำเนินการตามภารกิจในการปลูกสร้างสวนป่าทดแทนในพื้นที่เสื่อมโทรม หลังการสัมปทานทำไม้สิ้นสุดลง โดยได้เริ่มปลูกสร้างสวนป่าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2521-2539 มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ ปลูกไม้สักประมาณ 15,000 ไร่ ที่เหลือเป็นไม้ดีมีค่า เช่น แดง ยางนา ประดู่ ตะเคียนทอง
ภายหลังจากการปลูกสร้างสวนป่าแล้วได้รับมอบพื้นที่ในส่วนที่ไม่อยู่ในเขตอนุรักษ์ (พื้นที่เศรษฐกิจ โซน E) จากกรมป่าไม้มาดูแลรักษาตามมติ ครม.เมื่อปี พ.ศ.2533 และ มื่อปี พ.ศ.2538 กรมป่าไม้ ได้อนุญาตให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ใช้ประโยชน์ไม้ที่ปลูกได้ และปลูกทดแทนโดยใช้งบประมาณขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
สวนป่าทองผาภูมิ จึงได้นำไม้ที่ปลูกออกมาใช้ประโยชน์โดยการตัดสางขยายระยะ และตัดหมดเมื่อไม้ครบอายุตัดฟัน พร้อมปลูกทดแทนทันที ทำให้มีแปลงปลูกป่าที่หลากหลายอายุ เกิดการหมุนเวียนของทรัพยากรตลอด การดำเนินตามแนวนโยบายด้านการจัดการสวนป่าอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากลของ อ.อ.ป. เน้นความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
ทำให้ภายในเขตสวนป่ามีความอุดมสมบูรณ์ จากการอนุรักษ์พื้นที่มีคุณค่าสูง เช่น พื้นที่สองฝั่งลำห้วย พื้นที่แหล่งน้ำ พื้นที่ป่าพุ ตาน้ำผุด ต้นไม้ธรรมชาติดั้งเดิม กระจายครอบคลุมทั่วพื้นที่ ทำให้สภาพของพื้นที่สวนป่าที่ปลูกมีความใกล้เคียงกับป่าธรรมชาติมาก จึงทำให้มีช้างป่าที่อาศัยในเขตอนุรักษ์ที่มีพื้นที่แนวเขตติดต่อกับสวนป่า อพยพเข้ามาอยู่อาศัย และใช้ประโยชน์ในพื้นที่สวนป่าทองผาภูมิ โดยการอพยพออกมาของช้างป่าก็มีผลกระทบต่อชุมชนรอบๆสวนป่า
เนื่องจากช้างขยายพื้นที่หากิน และชอบพืชผลทางการเกษตร การแก้ไขปัญหาเรื่องช้างป่ากับชุนชนจึงเป็นเรื่องใหญ่ และต้องมีแผนการจัดการระยะยาว จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือของหลายฝ่าย ซึ่งหลายๆ ที่ในประเทศไทยก็ประสบปัญหาช้างป่าเช่นกัน คงต้องนำแนวทางที่สามารถแก้ไขปัญหา หรือลดผลกระทบความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างมาปรับใช้กับพื้นที่ของตำบลห้วยเขย่งต่อไป
สำหรับช้างป่าที่มีอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ที่คอยเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมมาโดยตลอด พบว่า มีช้างป้าตัวเมีย อายุค่อนข้างมาก และเป็นช้างป่าที่ตัวใหญ่ที่สุดในโขลง เจ้าหน้าที่ของเราเรียกมันว่า “ไอ้ด่าง” โดยจากการสังเกตพฤติกรรมของช้างป่าตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ของเราคาดว่า น่าจะเป็นผู้นำโขลงช้าง หรือจ่าฝูง หรือ “ช้างแม่แปรก”
คำว่า “ช้างแม่แปรก” นั้น ประชาชนทั่วไปอาจจะไม่คุ้นหู หรือไม่เคยได้ยินคำๆนี้มาก่อน ซึ่งทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้อธิบายเอาไว้ว่า “แม่แปรก” หรือช้างแม่หนักเป็นช้างพังที่มีความเก่งกล้ามากจนได้รับหน้าที่นำโขลง
ช้างไทยนั้นจะอยู่รวมกันเป็นโขลง ในโขลงนั้นประกอบไปด้วย ช้างเต็มวัย และลูกช้าง จำนวนเฉลี่ย 7-8 ตัวต่อ 1 โขลง ซึ่งช้างเต็มวัยทุกตัวในโขลงนั้นจะเป็นช้างตัวเมียทั้งหมด “แม่แปรก” หรือช้างแม่หนัก ที่กล่าวมาจะคอยนำทางหาแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร ดูแล ปกป้องช้างทุกตัวในโขลงเสมือนเป็นลูกของตัวเอง และเมื่อมีภัยคุกคามเกิดขึ้น “แม่แปรก” จะปกป้องลูกช้างในโขลงอย่างสุดกำลัง แม้จะแลกด้วยชีวิตก็ตาม
ดังนั้น จากพฤติกรรมของ “ไอ้ด่าง” จึงเชื่อได้ว่า มันคือ “ช้างแม่แปรก” ที่คอยนำทางหาแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร ดูแล ปกป้องช้างทุกตัวในโขลงที่อาศัยอยู่ในสวนป่าทองผาภูมิ เสมือนเป็นลูกของตัวเองนั่นเอง