ศูนย์ข่าวขอนแก่น - รวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ในขอนแก่น ได้ของกลางทั้งยาไอซ์-ยาอีจำนวนมาก พร้อมอาวุธปืน เครื่องกระสุน เผยเป็นเครือข่ายค้ายานรกให้กลุ่มนักท่องราตรีกระเป๋าหนักในเมืองหมอแคน พร้อมยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อม พล.ต.ต.พรหมณัฐเขต ฮามอำไพร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดขอนแก่น พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ตรวจดูของกลางยาเสพติด ประกอบด้วย ยาไอซ์ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ยาบ้า 4,400 เม็ด ยาอี อาวุธปืน 1 กระบอก เครื่องกระสุนจำนวน 61 นัด อุปกรณ์การเสพ โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมรถเบนซ์ รุ่น CLA 250 ทะเบียน 4 กค 3289 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 3 ล้านบาท และเงินสด 53,600 บาท
ของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.ขอนแก่น ตรวจยึดได้ดังกล่าวเป็นการตรวจยึดได้จากนางวรารี อาดัม อายุ 40 ปี ชาวขอนแก่น หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมได้ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น
พล.ต.ต.สุรชัยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองขอนแก่น สืบทราบว่าจะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดบริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น จึงวางแผนปิดล้อมจับกุม กระทั่งพบรถเบนซ์ หมายเลขทะเบียน 4 กค 3289 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาจอดหน้าอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ซึ่งตรงกับที่สายข่าวแจ้งไว้ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบนางวรารี ผู้ต้องหา แสดงตนเป็นผู้ขับขี่
จากการตรวจค้นในรถพบยาไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะที่นั่งฝั่งคนขับ พร้อมอาวุธปืน ขนาด .38 พร้อมเครื่องกระสุน จึงได้ขยายผลไปตรวจค้นที่ห้องพัก ยึดได้ยาเสพติด และของกลางอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านบาท
ทั้งนี้ นางวรารีให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมยึดทรัพย์ทั้งหมดมูลค่า 3,053,000 บาท
พล.ต.ต.สุรชัยระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ มีฐานะดี ซึ่งเชื่อได้ว่าร่ำรวยมาจากการค้ายาเสพติดให้กลุ่มนักเที่ยวราตรีที่โดยมากจะเป็นกลุ่มคนที่มีฐานะดีในเมืองขอนแก่น และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจ สภ.บึงกาฬจับยาไอซ์ได้จำนวนมาก จึงเชื่อว่ายาเสพติดบางส่วนถูกลำเลียงจากแนวชายแดนเข้ามาสู่หัวเมืองชั้นในแล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมกับฝ่ายปกครอง ทหาร จะได้วางแผนปราบปรามยาเสพติดและนำไปปฏิบัติอย่างเข้มงวดมากขึ้น
