นครพนม - สลดสยอง! เสี่ยใหญ่โชว์รูมโตโยต้า และปั๊มน้ำมันชื่อดังในนครพนมขับฟอร์จูนเนอร์ชน 10 ล้อดับคู่ อดีตนายก อบจ.ไปด้วยสาหัส ชาวบ้านเรียกร้องแก้ไขยูเทิร์นมรณะ เจ็บ-ตายบ่อย
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สันติ สีมาลา รองสารวัตรสอบสวน สภ.คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บริเวณจุดกลับรถ หลักกิโลเมตรที่ 30 ถนนชยางกูร ธาตุพนม-มุกดาหาร ฝั่งมุ่งหน้าไปยัง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
จึงประสานเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลมุกดาหาร และโรงพยาบาลอำเภอหว้านใหญ่ ระดมเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยในที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นใหม่ สีดำ ทะเบียน 3 กศ 5126 กทม. อยู่ในสภาพชนท้ายรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนหัวลาก 80-4702 มุกดาหาร และทะเบียนลูกพ่วง 80-4703 มุกดาหาร ซึ่งบรรทุกมันสำปะหลังมาเต็มรถ ทำให้สภาพด้านหน้ารถฟอร์จูนเนอร์พังเสียหายอย่างหนักจากแรงกระแทกยุบเข้าถึงที่นั่งคนขับ ทำให้ถุงลมนิรภัยแตกทั้งสองข้าง
ส่วนคนในรถได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งหมด 4 รายยังติดภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงระดมช่วยเหลือนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหาร
ทราบชื่อภายหลังผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายไพรวัลย์ นามประกาย อายุ 62 ปี เจ้าของโชว์รูมโตโยต้านครพนม ซึ่งนั่งเบาะซ้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมี นายอนุรักษ์ เรืองวรบูรณ์ นั่งมาด้านหลัง เจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันชื่อดังของ จ.นครพนม เสียชีวิตหลังนำส่งโรงพยาบาล รวมเสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย
ส่วนอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส มี นายสมชาย นันทิเกียรติกุล อดีตนายก อบจ.นครพนม เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บสาหัสขาหักทั้งสองข้าง และยังมีเพื่อนอีกคนนั่งมาด้วย คือ นายเกรียงไกร (ไม่ทราบนามสกุล) อดีตข้าราชการครู ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงในระดับจังหวัด และเป็นผู้ประกอบการธุรกิจรายสำคัญที่มีฐานะของจังหวัดนครพนม
เบื้องต้นจาการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันเกิดเหตุได้ขับมุ่งหน้ากลับมาจาก จ.มุกดาหารเพื่อจะเดินทางกลับ จ.นครพนม พอถึงที่เกิดเหตุเป็นจุดกลับรถ ได้มีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกมันสำปะหลัง คู่กรณีชะลอความเร็วเพื่อกลับรถไปยังโรงแป้งที่อยู่อีกฝั่งตรงข้าม
ทำให้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวมาด้วยความเร็ว และไม่สามารถเบรกได้ทัน เป็นเหตุให้พุ่งชนเข้าอย่างแรง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว
โดยจุดกลับรถดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่ได้ระบุว่าเป็นจุดที่ชาวบ้านเรียกว่ายูเทิร์นมรณะ เนื่องจากเป็นจุดเสี่ยงอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บแทบรายวันเพราะเป็นเส้นทางหลักที่รถใช้ความเร็วสูง อีกทั้งไม่มีไฟส่องสว่างถนนในช่วงกลางคืน และยังมีรถบรรทุกมันสำปะหลังกลับรถบ่อยเพื่อเข้าโรงงานแป้ง
ทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมา ไม่ทันระวังเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บเสียชีวิตบ่อย และเคยเรียกร้องไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางแก้ไขหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก ล่าสุดพร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งแก้ไข เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นซ้ำอีก