อ่างทอง- พระสงฆ์ - หมา แมวในวัดอัมพวัน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้รับความเดือดร้อนทั่วหน้า หลังพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา พังทลายจนน้ำเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 3 เมตร เบื้องต้น โบสถ์ วิหาร ศาลา และเมรุจมน้ำเสียหาย
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวยังคงเกาะติดสถานการณ์น้ำใน จ.อ่างทอง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ป่าโมก ที่พบว่า หลังพนังกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา พังทลายจนทำให้น้ำเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ไม่เพียงแต่จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเท่านั้น แต่พระสงฆ์ภายในวัดอัมพวัน และสัตว์ต่างๆ ก็พลอยได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูงกว่า 3 เมตร และเอ่อล้นเข้าท่วมโบสถ์ วิหาร ศาลา และเมรุจมน้ำจนได้รับความเสียหาย
ส่วนบริเวณพื้นศาลา และพื้นกุฏิ ระดับน้ำที่สูงอย่างต่อเนื่องจนทำให้เหลืออีกเพียง 30 เซนติเมตร ก็จะจมน้ำ ทำให้พระสงฆ์ต้องอาศัยเรือเป็นยานพาหนะในการเดินทางเข้าออก
พระวรรนพ มหาปุญโญ พระลูกวัดกล่าวว่า ขณะนี้เริ่มประสบปัญหาน้ำกัดเท้า และผิวหนังเป็นผื่นคัน เนื่องจากน้ำเริ่มขัง และไม่ไหลเวียนทำให้สภาพน้ำเริ่มเปลี่ยนสี และมีกลิ่น รวมทั้งยุงยังชุม สุนัข และแมวที่พักพิงอยู่ภายในวัดต่างพากันหนีน้ำขึ้นมาอยู่บนศาลา หรือบนหลังคา และบางส่วนหนีน้ำไปอยู่บนเมรุ และวิหาร พระสงฆ์ต้องพายเรือนำอาหารไปให้กินประทังชีวิต
ทั้งนี้ ระดับน้ำเจ้าพระยาเริ่มทรงตัวแล้ว แต่ก็ยังเกินระดับวิกฤตอยู่ ทำให้หลายหมู่บ้านต้องวางเวรยามดูแลอย่างต่อเนื่อง และยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่น้ำเจ้าพระยาได้รั่วซึมเข้าท่วมหมู่บ้านจนได้รับความเดือดร้อน
และล่าสุด ระดับที่ C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 8.91 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีผู้ประสบภัยใน 5อำเภอ 38 ตำบล 129 หมู่บ้าน 4,037 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 7,015 ไร่ เกษตรกรเดือดร้อน 1,020 ราย
