ศรีสะเกษ - แม่ ผอ.อ้อยไม่แปลกใจผลพิสูจน์ดีเอ็นเอชี้ชัดเป็นศพลูกสาวที่หายไปนานกว่า 3 เดือน เตรียมตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน ลุ้น “ผู้กองเหน่ง” เข้ารายงานตัวต่อศาลกันทรลักษ์ 30 ต.ค.นี้ พนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหาหนัก จากเดิม 8 ข้อหา คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ คาดค้นประกันตัว หวั่นหลบหนี
วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บ้านของ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวอย่างมีเงื่อนงำนานกว่า 3 เดือน ได้มีบรรดาญาติพี่น้องและชาวบ้านซำเม็งพากันมาติดตามข่าว หลังจากที่มีข่าวทางสื่อสารมวลชนว่าขณะนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นเนื้อกะโหลกและกระดูกต้นขา ทางนิติวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบชี้ชัดแล้วว่า กะโหลกศีรษะ เส้นผม กระดูก รวมทั้งนาฬิกาข้อมือที่พ่อแม่ไปค้นพบที่บริเวณทางขึ้นเนิน 500 ห่างจากฐานอนุพงศ์ บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 60 ที่ผ่านมา เป็นดีเอ็นเอที่ตรงกับ ผอ.อ้อย ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องต่างก็พากันดีใจ
หลังจากที่พากันออกค้นหา ผอ.อ้อยมานานกว่า 3 เดือนแล้ว จนกระทั่งมาพบว่า ผอ.อ้อยเป็นศพถูกทิ้งอยู่กลางป่าในสภาพที่น่าเวทนาเหลือเพียงโครงกระดูกกะโหลกศีรษะ เส้นผม เข็มขัดราชการ นาฬิกาข้อมือสีดำ
นางแหลม อุ่นอ่อน แม่ของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกแปลกใจหรือตื่นเต้นดีใจที่ผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอศพที่พบมีดีเอ็นเอตรงกันกับดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อย เนื่องจากตนและครอบครัว ญาติพี่น้องทุกคนมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าศพที่พบคือศพของ ผอ.อ้อยอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากที่ตนและครอบครัวได้รับศพกลับมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตนจะนำศพ ผอ.อ้อยมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเลขที่ 36 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี พี่สาวของ ผอ.อ้อย เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยจัดพิธีแต่งงานกับ นายวิทยา เกษแก้ว สามี และเป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยอยู่มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายกลับมาจาก จ.เชียงใหม่
กำหนดตั้งศพบำเพ็ญกุศลจำนวน 3 วัน จากนั้นจะนำศพ ผอ.อ้อยไปฌาปนกิจที่วัดบ้านซำเม็ง ที่เป็นวัดอยู่ภายในหมู่บ้านต่อไป
ส่วนเรื่องคดีความนั้น ตนมั่นใจว่าหลักฐานแน่นหนาชัดเจนขนาดนี้ผู้ต้องหาคดีนี้คงไม่สามารถที่จะหลุดรอดไปได้ แต่ที่ห่วงอยู่ในขณะนี้คือ ผู้ต้องหาที่เป็นนายทหารยศร้อยเอกอาจหลบหนีคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้จนมุมด้วยพยานหลักฐานที่ตนและญาติพี่น้องค้นหาจนเจอครบหมดแล้ว ตนขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาคดีนี้ จำนวน 8 ข้อหา ไปฝากขังผัดที่ 1 ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดฝากขังผัดที่ 2 ในวันที่ 30 ต.ค. 60 นี้ ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อยแล้ว พนักงานสอบสวนจะได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อผู้กองเหน่ง คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งคาดว่าพนักงานสอบสวนและพ่อแม่ของ ผอ.อ้อยจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นข้อหาที่ร้ายแรงและคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งหากได้รับการประกันตัวอีกเกรงว่าอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน รวมทั้งหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีอีกด้วย