อุดรธานี - แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ชาวอุดรฯ ยังเดินทางถวายดอกไม้จันทน์ไม่ขาดสาย แม้ยามบ่ายแดดจะร้อนจัด หลายคนยืนยันจะน้อมนำคำสอนของในหลวง ร.๙ ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งเรื่องการทำมาหากินและการครองตน โดยเฉพาะหลักเศรษฐกิจพอเพียง และความเพียร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระเมรุมาศจำลอง มณฑลพิธีสนามทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี ช่วงบ่ายที่ผ่านมาถึงแม้อากาศจะร้อนแต่ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศยังคงเดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์อย่างไม่ขาดสาย
นางวิภาวี ศรีพรรณนา ชาวอำเภอกุมภวาปี จ.อุดรธานี กล่าวหลังจากได้ขึ้นถวายดอกไม้จันทน์แล้วว่า ตนมีทั้งความภูมิใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ก่อนจะมาวางดอกไม้จันทน์ก็ได้ชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีเคลื่อนพระบรมศพ ดูแล้วรู้สึกเศร้ามาก ตั้งแต่ตนจำความได้จนปัจจุบัน ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประชาชนชาวไทยมีความเป็นอยู่ที่ดี พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้ประชาชนทุกคน จนไม่อาจหาคำไหนมาเปรียบเทียบให้สมกับความดีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญได้ พระองค์จะสถิตอยู่ในใจตลอดไป
จากนี้ไปตนจะยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะคำสอนที่ว่า เราค้าขาย เรายังไม่หวังกำไรมาก แต่อย่าให้ขาดทุน อยากให้มีกำไรพอเลี้ยงชีพ คำสอนนี้จำได้ขึ้นใจเพราะตนเองทำอาชีพค้าขาย
นายไกรรวี วงศ์ตระกูลการณ์ ประชาชนจิตอาสา เปิดเผยว่า มาทำหน้าที่ครั้งนี้ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตแล้วที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ได้ถวายงานรับใช้พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนหน้านี้หากตนมีเวลาว่างจากงานก็พยายามเข้าไปรับใช้ เป็นจิตอาสา ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ หรือที่จังหวัดอื่นๆ ที่เรามีโอกาสไป
คำสอนของพระองค์ท่านที่ยังคงตราตรึงใจเราอยู่จนถึงทุกวันนี้ คือ “ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเรามีความเพียร” หลังจากนี้จะน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านเป็นหลักในการดำเนินชีวิตต่อไป
ขณะที่นางหนูคำ ไชยสุด อายุ 63 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตน พร้อมบุตรสาวมารอถวายดอกไม้จันทน์ตั้งแต่ 7 โมงเช้า เพิ่งได้ขึ้นวางตอนบ่าย 2 ตั้งแต่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต 13 ตุลาคม 59 ตนยังคงเสียใจจนถึงทุกวันนี้ และได้นึกถึงคำสอนของพระองค์ท่านที่ยังก้องอยู่ในใจ คือ ความอดทน นำมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระองค์ตรัสไว้ทุกครั้งทุกที่ที่ไป
