กาฬสินธุ์ - สถานการณ์แม่น้ำชีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ยังวิกฤต ระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง พร้อมเร่งเสริมกระสอบทราย 50,000 ใบ ตามพนังกั้นลำชี เตรียมรับมือมวลน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนวังยางจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (20 ต.ค. 60) สถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ระดับน้ำชียังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งใน อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ซึ่งตลอดระยะทางพนังกั้นลำชียาว 57 กม.โดยเฉพาะใน อ.ฆ้องชัย ระยะทางกว่า 22 กม. หลายจุดระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนชิดสันขอบพนังกั้นและใกล้ล้นตลิ่ง ซึ่งนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกระสอบทราย 50,000 ใบ เร่งบรรจุทราย เสริมคันพนังกั้นให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำใหญ่จากเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ที่ระบายน้ำวันละ 50 ล้าน ลบ.ม. หลังจากปัจจุบันมีปริมาณน้ำมากถึง 2,933 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 121% คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำจำนวนมากที่ถูกระบายจากเขื่อนอุบลรัตน์จะมาถึงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และทำให้มีระดับน้ำสูงสุดในช่วงวันที่ 24-25 ตุลาคมนี้ พร้อมกำชับให้จัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งน้ำชีหนุนสูง ทำให้ปริมาณน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย รวม 11 หลังคาเรือน วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง และพื้นที่เกษตรอีก 500 ไร่ ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นหลายจุด
ล่าสุด พ.อ.มานพ ไขขุนทด รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.กาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับนายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ นำสารจุลินทรีย์ชีวภาพ (อีเอ็ม) หรือน้ำหมักชีวภาพใส่ในรถดับเพลิงผสมน้ำออกฉีดพ่นตามจุดน้ำท่วมขังภายในโรงเรียนท่ากลางแจ้งจมวิทยา และภายในหมู่บ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประภัยน้ำท่วมและมีน้ำท่วมขัง เนื่องจากเศษวัชพืชที่ถูกน้ำท่วมจนเน่าตายและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ส่งกลิ่นเหม็นและเน่าเสียให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และปลูกฝังให้ประชาชนหันมาใช้น้ำหมักชีวภาพ ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนการใช้สารเคมี
สำหรับสถานการณ์น้ำแม่น้ำชี โดยเฉพาะบริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดวัดระดับน้ำ ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 4 เซนติเมตร ระดับสูงสุดอยู่ที่ 140.51 เมตรเทียบกับทะเลปานกลาง (ม.รทก.) จากระดับกักเก็บปกติ 137 ม.รทก. ซึ่งเหลืออีกเพียง 52 เซนติเมตร จะเท่ากับระดับน้ำสูงสุดที่เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ซึ่งมีระดับสูงสุดอยู่ที่ 141.03 ม.รทก.
เจ้าหน้าที่ได้ยกแขวนบานประตูทั้ง 6 บาน ให้น้ำระบายน้ำผ่านเขื่อน 1,109.65 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 95.87 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ได้กำชับให้นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าเขื่อนวังยาง พร้อมเจ้าหน้าที่จัดเวรยามเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตามตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของพนังกั้นลำชีตลอดระยะทางและออกเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ด้วย
ส่วนสถานการณ์เขื่อนลำปาวล่าสุดมีน้ำไหลเข้าอ่าง 11 ล้าน ลบ.ม.ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,846 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 93% ปัจจุบันทางเขื่อนยังคงปิดการระบายน้ำ เพื่อจัดการจราจรน้ำ และไม่ให้ปริมาณน้ำไปสมทบกับน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ ป้องกันน้ำล้นตลิ่งช่วงนี้