ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ม.ล.ปนัดดา” ย้ำทุกภาคส่วนเกี่ยวกับการจัดการศึกษาทุกจังหวัดต้องร่วมขับเคลื่อนโครงการ “โรงเรียนคุณธรรม” มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรมนำความรู้ สร้างคนดีให้บ้านเมืองเพื่อสืบสานพระราชปณิธานและเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ ๙
บ่ายวันนี้ (18 ต.ค.) ที่หอประชุมโรงเรียนขามแก่นนคร จ.ขอนแก่น ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น นางปราณี ศิวารมณ์ รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. ดร.อรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค 12 ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ศึกษาธิการ จ.ขอนแก่น นางประภาพร สำเรียงจิตต์ รอง ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 1 นายศุภกิจ สานุสัตย์ ผอ.ร.ร.ขามแก่นนคร ผู้บริหารสถานศึกษา กศจ. ตลอดจนอนุกรรมการ กศจ.ขอนแก่น ประธานอาชีวศึกษา ผอ.สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และคณะครูและนักเรียนในสังกัด จำนวน 250 คน ร่วมประชุม
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้รับความไว้วางใจให้มาร่วมทำงานสนองพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งกว่า 37 ปีที่เคยรับราชการได้มองเห็นประเทศไทยมีความสงบสุข ร่มเย็นใต้ร่มพระบารมี เป็นแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง
สำหรับการเป็นผู้บริหารที่ดีนั้น ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า นอกจากจะต้องมีความเป็นครูบาอาจารย์ที่ดีแล้ว จะต้องเป็นแบบอย่าง (Idol) ที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาและลูกศิษย์ เปรียบเสมือนในหลวง รัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงเป็นต้นแบบของความดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจรรยาบรรณ มารยาทที่งดงาม พระราชจริยวัตรอันเป็นที่ชื่นชมโสมนัส ความซื่อสัตย์สุจริต รวมไปถึงการใช้ภาษาต่างประเทศที่มีความไพเราะ แตกฉาน และสง่างาม
จนสามารถชนะใจชาวต่างชาติในต่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นแก่ลูกหลานเยาวชนไทยที่จะเติบโตเป็นผู้นำของสังคมในอนาคต ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ ที่ได้พระราชทานว่า “การศึกษาต้องมุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน คือ มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี”
ม.ล.ปนัดดากล่าวอีกว่า กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ขับเคลื่อนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามนโยบายประเทศไทย 4.0, ศาสตร์พระราชา, การพัฒนาผู้เรียนให้มี “คุณธรรมนำความรู้” ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจึงให้ความสำคัญมากต่อการขับเคลื่อนโครงการ “โรงเรียนคุณธรรม” ในสถานศึกษาทุกสังกัดทั่วประเทศ
ขณะนี้สถานศึกษาทุกสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณธรรม ตามกรอบแนวคิดที่สำคัญ 5 ข้อ
ประกอบด้วย 1) ความพอเพียง 2) ความกตัญญู 3) ความซื่อสัตย์สุจริต 4) ความรับผิดชอบ 5) อุดมการณ์คุณธรรมจริยธรรม จึงขอให้ทุกท่านช่วยกันขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณธรรม ดำรงไว้ซึ่งความดี ปฏิบัติตนเป็นคนดีของชาติบ้านเมือง มีสัมมาชีพ ซื่อสัตย์สุจริต ดังเช่นที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ มีพระราชดำรัสแก่ประชาชนชาวไทย ตลอดจนลูกหลานเยาวชน ให้ช่วยกันสืบสานพระราชปณิธานและเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ ๙ สืบไป
ม.ล.ปนัดดายังได้เสนอกรอบแนวคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานและการดำรงตน 4 ประการ เพื่อนำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตทั้งส่วนตนและส่วนรวม กล่าวคือ Protocolการรู้จักระเบียบและพิธีการ เพราะการอยู่ในสังคมนั้นเราต้องรู้จักพิธีการในการดำรงชีวิต, Etiquette (มาจากรากศัพท์ภาษาฝรั่งเศส) คือสิ่งที่ควรปฏิบัติหรือสิ่งที่ควรจะเป็น ไม่สุดโต่ง, Manners การมีจรรยามารยาทที่ดี, Education การศึกษาที่จะผสานได้ทุกเรื่องและเกิดการเชื่อมโยงที่เหมาะสม
ด้าน ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น (ศธจ.) กล่าวว่า ศธจ.ขอนแก่นมีจุดแข็งคือ ข้าราชการครูและบุคลากรค่อนข้างมีความมุ่งมั่น การขับเคลื่อนการศึกษาตามนโยบายสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงอยากเสนอให้มีการคืนอำนาจบางประการให้ ผอ.เขต (อำนาจเดี่ยว) ตลอดจนการกระจายอำนาจให้แก่อนุกรรมการ กศจ.แทน เช่น นำระบบ ICT มาพัฒนาระบบ ประกอบกับการรายงาน และจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานและกรอบงานของสำนักงานศึกษาธิการต่อบุคลากรครูให้อย่างทั่วถึง