ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ว่าฯ ขอนแก่นถกด่วนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำทั้งจ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ขอมติเพิ่มระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ หลังระดับน้ำเกินความจุอ่างไปที่ 114% วางแผนปล่อยน้ำเพิ่มเป็นขั้นบันได ตั้งแต่ 42 ล้าน ลบ.ม.ไปถึงระดับ 54 ล้าน ลบ.ม. แนะประชาชนท้ายเขื่อนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
วันนี้ (14 ต.ค. 2560) ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร โดยมีนายเสน่ห์ นนทะโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามร่วมประชุมด้วย ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนอุบลรัตน์ว่า ปัจจุบันมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีปริมาณกักเก็บสูงถึง 2,789 ล้าน ลบ.ม. หรือเกินระดับกักเก็บไปถึง 114%
จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นโดยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มีมติปล่อยน้ำเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มในเวลา 12.00 น.วันนี้ (14 ต.ค.) จาก40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเป็น 42 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากนั้นเวลา 06.00 น. วันที่ 15 ต.ค.จะระบายน้ำเพิ่มเป็น 46 ล้าน ลบ.เมตร วันที่ 16 ต.ค. ระบายน้ำเพิ่มเป็น 50 ล้านลูกบาศก์เมตร วันที่ 17 ต.ค.ระบายน้ำเพิ่มเป็น 54 ล้าน ลบ.เมตรต่อวัน และจะคงระดับ 54 ล้านลูกบาศก์เมตรไปเรื่อยๆจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หากประชาชนสงสัยข้อมูลสอบถามข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-4344-6393
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวว่าได้ออกไปดูสภาพน้ำในเขื่อน พบว่ามีน้ำไหลเข้ามากขณะนี้เกิน 100 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกวัน จำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน จึงได้มีมติปล่อยน้ำแบบขั้นบันได เพื่อให้ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และให้ทางอำเภอต่างๆแจ้งชาวบ้านริมสองฝั่งลำน้ำพอง ลำน้ำชี ได้เตรียมความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุต่างๆ
สำหรับการปล่อยน้ำเพิ่มเที่ยงวันนี้ที่ระดับ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร มวลน้ำจะมาถึงอำเภอน้ำพอง ประมาณเที่ยงพรุ่งนี้ และอีกสองวันจะมาถึงอำเภอเมืองขอนแก่น ขอให้ประชาชนท้ายเขื่อนอุบลรัตน์เตรียมพร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และคอยติดตามฟังข่าวสารจากทางราชการ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้สั่งการไปทุกพื้นที่ให้เฝ้าระวังเพราะน้ำมวลแรกจะไปถึงสารคามอีก 3-4 วันข้างหน้าเช่นกัน