จับตำรวจเก๊ทำกร่าง! ตรวจค้นชาวบ้าน เร่งล่าหัวโจกไหวตัวหลบหนีทัน

อุบลราชธานี - จับ 2 ตำรวจปลอม อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทำกร่างเข้าตรวจค้นประชาชน ตรวจสถานที่ราชการ พอถูกจับได้ อ้างทำงานเพื่อสาธารณประโยชน์ แจ้งสองข้อหาทั้งแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่มีสิทธิ และมีวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนหัวโจก ไหวตัวหลบหนีไปได้

สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้บุกจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงสมัครเป็นสมาชิกกับมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสามารถแต่งกายเลียนแบบคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในชั้นยศต่างๆ ที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อหลายวันก่อนนั้น

ต่อมาเพจมีด่านบอกด้วยอุบลราชธานี ได้โพสต์ภาพกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับรถกระบะติดสัญญาณไฟฉุกเฉิน ออกตั้งด่านตรวจค้นประชาชนและเดินตรวจตามสถานที่ราชการ เช่น ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี สถานีรถไฟอุบลราชธานี สถานีขนส่งอุบลราชธานี จึงตั้งข้อสังเกตกลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ และสามารถเข้าตรวจค้นประชาชนตามที่ต่างๆ ได้หรือไม่

หลังโพสต์ภาพการกระทำของกลุ่มชายดังกล่าว มีประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย พร้อมให้เบาะแสว่ามีการตั้งศูนย์ประสานงานมูลนิธิบรรเทาภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งอยู่เลขที่ 228/1 ถนนศรีณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

ล่าสุดช่วงค่ำวานนี้ (13 ต.ค. 60) พ.ต.อ.ทวี กิติวิริยกุล ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี , พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดอุบลราชธานี เข้าจับกุมนายสุนทร แสงวงษ์ อายุ 65 ปี ซึ่งพักอยู่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมของกลางวิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง รถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บว 593 อุบลราชธานี ติดสัญญาณไฟวับวาบ เครื่องหมายยศ แพรแถบ และเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษอื่นๆ ของทางราชการ นำตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นนายสุนทรให้การว่า เดิมมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ต่อมาสมัครเข้าเป็นตำรวจอาสาของ สภ.เมืองอุบลราชธานี และมีนายศุภวัตน์ ศิลารักษ์ อ้างตัวเป็นผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาภัยประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้ชักชวนเข้าร่วมกับมูลนิธิแห่งนี้ พร้อมเปิดเป็นศูนย์ประสานงานกองร้อยชุดควบคุมที่ 15 โดยมีนายสุนทรเป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ มีสิทธิแต่งกายติดชั้นยศลักษณะคล้ายนายพลตำรวจตรี มีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนเรื่องต่างๆ ทั้งน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือรถเสียก็ออกไปช่วยเหลือ โดยใช้เงินส่วนตัวทำกิจกรรม แต่บางครั้งก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้มาขอความช่วยเหลือครั้งละ 100-200 บาท สำหรับเครื่องแบบได้สั่งซื้อมาจากมูลนิธิส่วนกลางราคาชุดละ 10,000 บาท ปัจจุบันศูนย์ประสานงานอาสาบรรเทาภัยอุบลราชธานี มีสมาชิกกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ประมาณ 50 คน โดยมีนายศุภวัตน์ ศิลารักษ์ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาภัยอุบลราชธานี

ต่อมาช่วงดึกวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายชัชนันท์ หรือวุฒิ พงษ์พานิชณ์ อายุ 32 ปี อยู่เลขที่ 50 ซอยชยางกูร 24 ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องแต่งกายได้อีกคนโดยทำหน้าที่เป็นนายเวรของผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานแห่งนี้ จึงนำตัวมาดำเนินคดีร่วมกันในข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการว่าตนเป็นเจ้าพนักงาน โดยไม่มีสิทธิในการเป็นเจ้าพนักงาน มีและใช้วิทยุสื่อสารโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต

ด้านนายศุภวัตน์ ศิลารักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาภัยอุบลราชธานี ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นได้หลบหนีไปก่อนหน้า และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อเดือนตุลาคม 2554 เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี จับกุมพร้อมพวกอีก 7 คน ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์

ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางเป็นเครื่องแบบยศร้อยตำรวจตรี ติดป้ายชื่อ ศุภวัตน์ ศิลารักษ์ เครื่องแบบสีกากีติดสายแดงไม่ติดยศ จำนวน 1 ชุด หมวกกันน็อกสีทองคล้ายหมวกสายตรวจ 1 ใบ กุญแจมือ เครื่องยนต์เรือเร็ว เรือหางยาว เครื่องสูบน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีร่วมกับนายสุนทรต่อไปด้วย