อุบลราชธานี - ครอบครัวสาวเมืองอุบลฯ ที่หายตัวลึกลับนานร่วมครึ่งเดือนร้องสื่อช่วยประกาศตามหาตัว โดยเจ้าตัวอ้างเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเมื่อกลางเดือนกันยายน แต่จนถึงวันนี้ยังติดต่อไม่ได้ หวั่นจะได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง หรือถูกใครจับตัวเอาไว้
วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอจาก น.ส.อุษา โชติคาม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 366/1 หมู่ 15 บ้านนิคมห้วยสนามบิน ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ช่วยประกาศตามหาตัว น.ส.อัจฉรา โชติคาม อายุ 29 ปี น้องสาวและมารดาของหลานสาว คือ น้องปูปู้ อายุ 8 ขวบ หลังเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาน้องสาวบอกจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น
จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ติดต่อกลับมา ทำให้ครอบครัวเป็นห่วงว่าน้องสาวอาจถูกจับตัวหรืออาจได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง
น.ส.อุษาเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เดิมน้องสาวคือ น.ส.อัจฉรา เคยมีสามีเป็นชาวมาเลเซีย แต่ได้เลิกกันและนำบุตรสาวกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดกับครอบครัว และได้เดินทางไปท่องเที่ยวและทำงานตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว
กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.ย.น้องสาวแจ้งว่าจะเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และมีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 4 ตุลาคม
ขณะที่ตอนเที่ยงของวันที่ 16 ก.ย.ยังมีการติดต่อหากันผ่านโปรมแกรมไลน์ ซึ่ง น.ส.อัจฉรา น้องสาวบอกว่ารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันน้องได้แจ้งว่าเดินทางถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น แล้ว หลังจากนั้นก็มีการพูดคุยทักทายกันทุกวันเพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวของตัวน้องสาว
กระทั่งวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมาไม่สามารถติดต่อกับ น.ส.อัจฉรา และน้องสาวก็ไม่ได้เปิดอ่านข้อความไลน์ที่ น.ส.อุษาส่งไปทักทายด้วย จนสิ้นเดือนกันยายน น.ส.อัจฉราก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาทางบ้าน ทั้งที่ปกติเป็นคนชอบอ่านไลน์และดูโทรศัพท์เป็นประจำ
ครั้นจะโทรศัพท์ไปสอบถามก็ไม่ได้เพราะน้องไม่ให้เบอร์ติดต่อไว้เนื่องจากเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ต้องการให้ทางบ้านรับทราบความเป็นไปอะไรมากนักเพราะไม่ต้องการให้เป็นห่วง
จนถึงวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังติดต่อกับน้องสาวไม่ได้นานกว่า 1 สัปดาห์จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความคนหายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจอำเภอเมืองอุบลราชธานีช่วยติดตามให้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ส่งเรื่องไปยังสถานทูตประเทศญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัว น.ส.อัจฉราให้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องรอตรวจสอบรายละเอียดตามคิวจากสถานทูตก่อน
แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับคำตอบ ด้วยความเป็นห่วงน้องสาวอาจได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุในการเดินทาง หรืออาจถูกใครจับตัวไว้ จึงร้องให้สื่อช่วยประกาศตามหาตัวให้ด้วย เพราะน้องสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นผู้หาเงินส่งเสียเลี้ยงดู ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งเสียลูกและหลานให้เรียนหนังสือ
หากขาด น.ส.อัจฉราก็คงไม่สามารถผ่อนบ้าน ผ่อนรถที่มีได้ จึงอยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ไทยและญี่ปุ่นช่วยติดตามหาตัว น.ส.อัจฉราให้ด้วย