ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บริหารตลาดเคหะเทพประสิทธิ์ พัทยา ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงหลังโลกโซเชียลขย่มดรามาร้านข้าวแกงถุงละ 100 เผยทางตลาดมีมาตรการคุมเข้มผู้เช่าไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคอยู่แล้ว ลั่นสั่งร้านต้นเหตุ และผู้ ประกอบการทุกรายต้องปิดป้ายราคาชัดเจนทุกถาดอาหาร หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยทำชื่อเสียงตลาดเสียหาย
จากกรณีกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กในเมืองพัทยา มีการแชร์ข้อมูลร้านขายข้าวแกงแห่งหนึ่งในตลาดเคหะเทพประสิทธิ์ พัทยา จ.ชลบุรี ที่มีการจำหน่ายกับข้าวในราคาสูงถุงละ 100 บาท ก่อนทางเจ้าของร้านได้ออกมาชี้แจงว่า ทางร้านไม่เคยเอาเปรียบลูกค้า เพราะใช้แต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ จึงทำให้ต้องขายแพงเพราะต้นทุนสูง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (11 ต.ค.) ที่สำนักงานบริษัท เมืองทองพัฒนา จำกัด นายธัชพงศ์ คติวานิช ผู้จัดการทั่วไป ตลาดเคหะเทพประสิทธิ์ พัทยา และนายเรืองหิรัญ กังวานสวรรค์ หัวหน้าแผนกกิจกรรมและกิจการพิเศษ ตลาดเคหะเทพประสิทธิ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงต่อกรณีดังกล่าว โดยเปิดเผยว่า ทางตลาดนัดเทพประสิทธิ์ ไม่ได้มีความนิ่งนอนใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะด้วยที่ผ่านมา ทางผู้บริหารตลาดก็ได้มีมาตรการในการควบคุมดูแลผู้เช่าล็อกไม่ให้ประกอบการเอารัดเอาเปรียบลูกค้ามาโดยตลอดอยู่แล้ว
นายธัชพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป เผยว่า ทางตลาดได้ให้ความร่วมมือต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.มาโดยตลอด ในเรื่องของการดูแลร้านค้าต่างๆ ภายในตลาดไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค หรือลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งการกำหนดราคาสินค้าและอาหารที่มีความเป็นธรรม และชัดเจน แต่สุดท้ายยังเกิดเรื่องจนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตลาดจนได้ ซึ่งจากนี้จะได้มีคำสั่งขั้นเด็ดขาดสำหรับร้านดังกล่าวให้ปฏิบัติตามภายในวันศุกร์ที่จะถึงเช่นกัน
ด้าน นายเรืองหิรัญ หัวหน้าแผนกกิจกรรมและกิจการพิเศษ ตลาดเคหะเทพประสิทธิ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาทางตลาดมีช่องทางร้องเรียนสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการในตลาดแล้วได้รับความไม่เป็นธรรม โดยสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านมายังเพจเฟซบุ๊กตลาดเคหะเซ็นเตอร์เทพประสิทธิ์พัทยา ซึ่งเมื่อได้รับข้อมูลแล้วทางตลาดก็จะจัดการปัญหาที่เกิดในทันที โดยไม่นิ่งนอนใจ
ทั้งนี้ ในส่วนของร้านต้นต่อที่ทำให้เกิดกระแสทางโซเชียลนั้น ทางตลาดได้เรียกมาสอบถามก็ได้รับการชี้แจงว่า เป็นเรื่องของวัตถุดิบที่มีคุณภาพจึงทำให้ราคาต้นสูงตามไปด้วย จึงได้มีคำสั่งให้ทำการรื้อป้ายราคาอาหารเก่าออก และให้มีการปิดป้ายราคาอาหารที่ถาดอาหารอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือก และตัดสินใจได้ ซึ่งให้ดำเนินการตั้งแต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไป หากยังดื้อดึงก็จะทำการยกเลิกสัญญาให้เช่าร้านขายอาหารต่อไป ถือเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดที่ทางตลาดตกลงกับผู้เช่ามาก่อนแล้ว