กาฬสินธุ์ - จากอาชีพพ่อค้าเร่ขายลูกชิ้นในเมืองหลวง อุบัติเหตุพลิกชีวิตกลับบ้านสืบสานตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ จากคนหาเช้ากินค่ำสู่ชีวิตเป็นสุขอย่างพอเพียง เนรมิตสวนหลังบ้านเป็นแหล่งอาหาร และแหล่งสร้างรายได้มากถึง 600 บาทต่อวัน
ที่บ้านนายสุขี บุญแสงส่ง ใน ต.สามัคคี อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยได้ทรงมอบหมายภารกิจให้ทุกหน่วยงานของกระเทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าส่งเสริมและเติมเต็มศักยภาพของเกษตรกร
ซึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอ ในส่วนของ อ.ร่องคำ และ อ.ท่าคันโท มีสำนักงานสหกรณ์ จ.กาฬสินธุ์เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 210 ราย เกษตรกรที่เข้าร่วมจะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ และใช้วิถีชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙
นายสุขี บุญแสงส่ง อายุ 56 ปี เกษตรกร เล่าว่า วิถีชีวิตเดิมก็เป็นเกษตรกรกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ พื้นที่ที่มีน้อยก็ปลูกข้าว ทำไร่ก็ไม่ได้ผลผลิตหรือมีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ จึงอพยพครอบครัวไปทำอาชีพขายลูกชิ้นทอดที่กรุงเทพฯ ทำอยู่นานเป็นสิบปีก็พอมีเงินเลี้ยงตัวและครอบครัวได้
จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุมีรถมาเฉี่ยวชน ร่างกายก็เริ่มไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ระหว่างที่พักฟื้นได้ดูข่าวทางสถานีโทรทัศน์ ได้รู้ว่าโครงการปิดทองหลังพระได้เข้ามาส่งเสริมในพื้นที่และอยู่ใกล้บ้าน อีกทั้งยังมีเพื่อนบ้านที่ทำแล้วประสบความสำเร็จจริง จึงตั้งใจเก็บข้าวของกลับมาบ้านและคิดเพียงอย่างเดียวว่า จะสืบสานเกษตรตามแนวพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
นายสุขีบอกว่า เขาเริ่มต้นด้วยการปลูกพืชอย่างละนิดอย่างละหน่อย ก็มีรายได้แรกๆ วันละ 60 บาท แต่ไม่มีรายจ่ายเพราะอยู่บ้านตัวเอง ข้าวปลาอาหารก็ไม่แพงเหมือนกับที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง จากนั้นก็เริ่มเลี้ยงปลา โดยขุดสระน้ำ เลี้ยงกบในบ่อซีเมนต์ เลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ควบคู่ไป นอกจากนี้ก็ยังเลี้ยงจิ้งหรีด เป็ดไข่ เป็ดเนื้อ และไก่พื้นเมือง ไก่ไข่
“ทุกอย่างหมุนเวียนเก็บขายเรื่อยๆ โดยไม่ต้องออกไปเช่าแผงขาย ขายที่บ้าน ทำให้ตอนนี้มีรายได้เฉลี่ยวันละอย่างน้อย 600 บาท อยากกินอะไรก็ปลูก ปลูกอะไรไว้ก็กินสิ่งที่เราปลูก วันๆ หนึ่งแทบไม่มีรายจ่ายอะไร ชีวิตก็ดีขึ้นไม่เครียด” นายสุขีกล่าว และบอกอีกว่า
เพราะอยู่อย่างพอเพียงตามที่พ่อหลวงได้ทรงสอนไว้ มีเงินเก็บสามารถซื้อที่ขยายออกไปเพิ่มเติม จนตอนนี้มีพื้นที่ทำการเกษตรกว่า 3 ไร่ มีเงินเก็บจากการออม และจากนี้คงไม่เปลี่ยนอาชีพอื่น จะทำเกษตรผสมผสานแบบพอเพียงตลอดไป