หนองคาย - หนุ่มลาวเข้ามาทำงานในอู่ซ่อมรถที่หนองคาย ขอใช้ชื่อเพื่อนคนไทยซื้อ จยย.ผ่อนจ่ายจนครบ 1 ปี งานหมดจะกลับบ้าน ขี่ จยย.แหกด่านตรวจพุ่งตรงจะข้ามลาว ถูกศุลกากรตามรวบได้กลางด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว สารภาพจะนำรถกลับไปใช้ที่บ้านฝั่งลาว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (11 ต.ค.) ที่กลางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย, นายสุดใจ อินทะวง รองหัวหน้าด่านภาษีสากล สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสายลม ร่วมสุข อายุ 33 ปี ชาวเมืองสังข์ทอง กำแพงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พร้อมของกลางจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แต่ในกระเป๋าสะพานของนายสายลม มีป้ายทะเบียนจักรยานยนต์ จม 7757 กำแพงนคร พร้อมบัตรประจำรถที่ทางการลาวออกให้ 1 แผ่น
จากการสอบถามนายสายลมบอกว่า ตนเข้ามาทำงานเป็นช่างในอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย เมื่อปีที่แล้ว และอยากได้จักรยานยนต์ไว้ใช้จึงขอให้เพื่อนคนไทยเป็นคนซื้อให้ โดยตนเป็นคนจ่ายงวด 2 งวด หมดในราคา 56,000 บาท แต่ช่วงนี้งานหมดจึงจะเดินทางกลับลาวโดยจะนำรถกลับไปใช้ด้วย ซึ่งได้ให้ญาติไปติดต่อขอป้ายทะเบียนรถจากฝั่งลาวไว้แล้ว จากนั้นตนได้ถอดป้ายทะเบียนไทยออกหวังว่าเมื่อข้ามฝั่งลาวไปแล้วจะนำป้ายทะเบียนรถลาวมาสวมแล้วจะขี่กลับบ้านเกิด โดยไม่รู้ว่าต้องทำเรื่องขอนำรถออกด้วย
นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ปฏิบัติงานตามปกติ ได้มีนายสายลมขี่จักรยานยนต์ขับเข้าด่านสะพานมาโดยไม่จอดให้เจ้าหน้าที่ตรวจ กลับขับแหกด่านมุ่งหน้าจะข้ามสะพานไปฝั่งประเทศลาว
เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงขับรถตามและจับกุมได้ที่กลางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่งประเทศไทย จึงนำตัวกลับมาสอบถามก่อน โดยนายสายลมให้การว่าเป็นรถของตนเองกำลังจะขับกลับลาว เมื่อตรวจดูในกระเป๋าสะพายก็พบแผ่นป้ายทะเบียนรถลาวและบัตรประจำรถ มีเลขเครื่องตรงตามตัวรถ แต่ไม่มีป้ายทะเบียนไทย การกระทำดังกล่าวเป็นการทำผิด พ.ร.บ.ศุลกากร ในการพยามยามลักลอบส่งออกสินค้าโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร มีอัตราโทษปรับ 4 เท่าของมูลค่าสินค้ารวมอากร และยึดจักรยานยนต์ของกลางไว้