xs
xsm
sm
md
lg

พ่อเมืองอ่างทองลงตรวจสอบพื้นที่ผลกระทบเขื่อนดินกั้นน้ำคลองโผงเผงพัง ทำน้ำท่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อ่างทอง - ผวจ.อ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนดินกั้นน้ำคลองโผงเผง พัง ทำบ้านเรือนชาวบ้าน ม.5 ต.โผงเผง ถูกนน้ำทะลักเข้าท่วม ได้รับผลกระทบหลายร้อยหลังคาเรือน ขณะที่เกษตรอ่างทอง ตรวจโครงการตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี



วันนี้ (9 ต.ค.) นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย นายไพบูลย์ ศุภบุญ นายอำเภอป่าโมก นายวินัย อ่ำรัศมี และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง ทหารในพื้นที่ อ.ป่าโมก ได้ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 5 ต.โผงเผง หลังได้รับแจ้งว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจากเขื่อนดินกั้นน้ำคลองโผงเผง ที่ถูกน้ำในคลองโผงเผงกัดเซาจนพังลง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 และ ต.บางบาล ที่อยู่เขตติดต่อ ต.โผงเผง ได้รับผลกระทบน้ำท่วมกันหลายร้อยหลังคาเรือน เร่งขนย้ายข้าวของขึ้นมาอยู่บริเวณริมถนน

นายวีร์รวุทธ์ เผยว่า หลังลงพื้นที่ตรวจสอบได้สั่งให้จัดเรือเพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรเข้าออกบ้านเรือน จากนั้นจะได้แจ้งให้ทางเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง จะได้ลงพื้นที่นำสิ่งของอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้งให้การช่วยเหลือ และรอดูสถานการณ์น้ำว่าจะมีท่าทีแนวโน้นสูงขึ้นหรือจะทรงตัว ให้ทางอำเภอป่าโมก และ อบต.โผงเผง ได้นำสารอีเอ็มเกี่ยวกับระบบน้ำที่เน่าเสีย และให้ทางสาธารณสุขดูแลเรื่องยาเกี่ยวกับโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัดต่างๆ และทางด้านทหารในพื้นที่ได้ช่วยกันนำเต็นท์จากสำนักงานของ ปภ.มาตั้งให้ประชาชนได้อาศัยสำหรับผู้ที่จะย้ายขึ้นมาอยู่บนถนนมีประมาณ 20 หลัง

ล่าสุด แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดระดับน้ำ C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง มีระดับอยู่ที่ 8.16 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,991 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอป่าโมก อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย รวม 8 ตำบล 35 หมู่บ้าน 713 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ 12 ตำบล ความเสียหาย 9,237 ไร่ ยังคงต้องเฝ้าระติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

เกษตรอ่างทองตรวจโครงการตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี

ด้าน นายสมพิศ พูลสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดอ่างทอง ได้นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการ 9101 “ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน” ที่บริเวณบ้านผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ซึ่งมีแนวคิดริเริ่มจากการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักแนวเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีความยั่งยืน เข้มแข็ง สามารถเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรพื้นที่นำไปใช้ได้อย่างยั่งยืน

โดยเป็นการทำเกษตรกรรมแบบเกื้อกูลกันในแนวเกษตรปลอดภัยสารพิษ และเพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากเกษตรกรในพื้นที่ทำการเกษตรขาดทุนมาตลอด จึงมีแนวคิดว่าจะเปิดสถานที่เรียนรู้ที่ให้เกษตรกรได้ทำการเกษตรอย่างถูกต้องถูกวิธี โดยใช้พื้นที่ฟาร์มชุมชนเพื่อทำนา เลี้ยงสัตว์ และปลูกผักไว้กินเพื่อลดค่าใช้จ่าย

นายขวัญเรือน ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ได้น้อมนำการทำเกษตรแนวทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้จนประสบผลสำเร็จ มีเกษตรกรเดินทางมาศึกษาดูงานในพื้นที่ตลอดเวลา จนกลายเป็นต้นแบบการศึกษาเรียนรู้การทำเกษตรแนวทฤษฎีใหม่แนวเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อ ซึ่งภายในพื้นที่ได้ปลูกข้าวปลอดสารพิษ จำนวน 7 ไร่ เลี้ยงเป็ดไข่ไว้กิน ส่วนที่เหลือกินนำไปขาย จำนวน 35 ตัว ให้เป็ดหาหอย และแมลงซึ่งเป็นศัตรูข้าวแต่เป็นอาหารของเป็ดจากแปลงนา เลี้ยงหมูหลุม โดยใช้แกลบลองพื้นไว้เป็นปุ๋ย จำนวน 10 ตัว เลี้ยงกบนาในกระชังบกไว้ขายอีก 2,000 ตัว

พร้อมกับขุดร่องน้ำรอบเนื้อที่พร้อมปล่อยพันธุ์ปลานิล ปลายี่สกเทศ และปลาตะเพียนอีก 5,000 ตัว โดยรอบๆ ร่องน้ำปลูกพืชผักสวนครัว และในช่วงนี้ได้เพาะต้นดาวเรืองไว้จำหน่าย ด้วยพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้มีประชาชนสนใจสั่งซื้อต้นดอกดาวเรืองไปปลูกเพื่อถวายอาลัยในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้เหลือทั้งแผ่นดินจำนวนมาก จึงทำให้สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในกลุ่มเดือนละหลายหมื่นบาท



กำลังโหลดความคิดเห็น