xs
xsm
sm
md
lg

ร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดดัง สงสัยเป็นพม่าสวมบัตรประชาชนคนตาย(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อดีตผกก.เวียงแหงหอบเอกสารร้องศูนย์ดำรงธรรมเชียงใหม่ และ กอ.รมน.เชียงใหม่ ขอให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดใหญ่เมืองเชียงใหม่และเป็นเจ้าคณะอำเภอ หลังพบข้อมูลหลักฐานเลขบัตรประจำตัวประชาชนตรงกับเด็กชายชาวจังหวัดชัยภูมิที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2538 หวั่นสวมบัตรคนตาย และจากการสืบค้นข้อมูลพบว่าอาจเป็นชาวพม่าด้วย

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 60 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และ กอ.รมน.เชียงใหม่ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.บุญเลิศ เมตตารักษ์ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเวียงแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ และนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข นำหลักฐานเป็นเอกสาร ภาพถ่าย และข้อมูลต่างๆ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

พร้อมข้อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อเจ้าอาวาสวัดชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องมาจากการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานทางทะเบียนราษฎรของเจ้าอาวาสวัดชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการใช้บัตรประชาชนที่มีหมายเลขบัตรประชาชนไปตรงกับบัตรประชาชนของเด็กชายดวงดี เวียงดินดำ ซึ่งได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2538

โดยตามประวัติของเด็กชายดวงดีนั้นเป็นชาวบ้านหนองดินดำ ตำบลบ้านแก้ง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ แต่พบว่าพ่อแม่ซึ่งสมัยนั้นบ้านอยู่ห่างไกลไม่ได้ไปแจ้งตาย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2560 ที่ผ่านมาทางฝ่ายทะเบียนราษฎรได้รับรองการตายและออกใบมรณบัตรให้แล้ว และพบว่าเลขบัตรไปตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าอาวาสรายนี้ ทำให้มีการสืบค้นต่อไปอีกจนพบพิรุธว่ามีการเปลี่ยนชื่อของเจ้าอาวาส และเมื่อปี 2528 มีการใช้ชื่อบัตรประชาชน และเลขบัตรของอีกบุคคลหนึ่งซึ่งไม่ตรงกับปัจจุบัน

เมื่อสืบค้นไปก่อนหน้านี้อีกยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า เคยใช้อีกชื่อหนึ่งที่มีการระบุด้วยว่าทั้งพ่อและแม่เป็นชาวพม่า นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยเชื่อมโยงไปถึงเจ้าอาวาสวัดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอทางตอนบนของเชียงใหม่ ที่มีพื้นที่ติดชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และมีความสนิทสนมกัน รวมทั้งมีส่วนช่วยผลักดันให้ได้สมณศักดิ์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย

สำหรับเจ้าอาวาสวัดดังที่ถูกร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมให้ตรวจสอบว่าข้อมูลทะเบียนราษฎร เนื่องจากมีการอ้างหลักฐานว่าเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปตรงกับเด็กชายชาวจังหวัดชัยภูมิที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2538 นั้น รายงานข่าวแจ้งว่าคือ พระราชรัชมุนี เจ้าอาวาสวัดสวนดอก พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่

ส่วนพระอุปัชฌาย์ที่เป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่อำเภอทางตอนบนของเชียงใหม่นั้น คือ พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวง อำเภอท่าตอน จังหวัดเชียงใหม่ และรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่

เบื้องต้นหลังจากที่มีการร้องศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว






กำลังโหลดความคิดเห็น