หิ้วตัวคนร้ายชิงเงินแบงก์แปดริ้ว ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ฉะเชิงเทรา - รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ นำตัวหนุ่มร่างโย่งสูงถึง 186 ซม. เหยื่อผีพนันเข้าสิงจนหมดตัว ก่อนตัดสินใจเข้าชิงเงิน 7.8 แสนบาทในธนาคารไทยพาณิชย์ เมืองแปดริ้ว มาแถลงข่าวถึงผลการจับกุม ก่อนหิ้วตัวออกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางฝูงชนชาวตลาดคลอง 16 ที่ออกมายืนรายล้อมรุมดูกันอย่างเนืองแน่น ขณะทางธนาคารไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมถ่ายภาพในขณะทำแผนด้วย

วันนี้ (6 ต.ค.) ที่ สภ.ฉิมพลี ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ. ตร. พร้อมด้วยนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และพ.ต.อ.ชาติพรรณ์ ศรีอภิรมย์ ผกก. สภ.ฉิมพลี ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการจับกุมตัว นายร่มโพธิ์ แสวงหา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/2 ม.1 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืน (ปลอม) บุกเข้าไปจี้ชิงเงินจากหน้าเคาน์เตอร์ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาด 16 ตั้งอยู่เลขที่ 18/51 ม.18 ถ.เทศบาล 1 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 5 เคาน์เตอร์ และได้เงินไปจำนวน 7.8 แสนบาท ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เมื่อช่วงบ่าย (12.37 น.) ของวันที่ 29 ก.ย.60 จนถูกติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ในเขตพื้นที่ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อวานนี้

โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ และพล.ต.ท.จิตติ ได้ร่วมกันซักถามสอบปากคำ จากปากของผู้ต้องหา จนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้สวมเสื้อคุมแขนยาวสีน้ำเงิน ทับเสื้อด้านในสีชมพู สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ สวมแว่นสายตา คาดปากด้วยหน้ากากอนามัย สวมถุงมือทั้งสองข้าง บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนปลอม (พลาสติก) สีดำ จี้ชิงเอาเงินสดจากธนาคารไปได้จำนวน 784,780 บาท จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์คันสีน้ำเงินไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุทาง ผบช.ภ.2 ได้ตั้งทีมสืบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายประกอบด้วยหลายหน่วยงาน ทั้งจากภาค 2 สืบจังหวัด ชุดสืบสวน สภ.ฉิมพลี และ สภ.องครักษ์ สภ.หนองเสือ เข้ามาบูรณาการร่วมกันทำงาน จนสามารถแกะรอยจับกุมตัวคนร้ายได้จากภาพในกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีที่จับภาพของคนร้ายเอาไว้ได้จำนวนหลายจุด

ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีออกไปยังพื้นที่ในเขต สภ.องครักษ์ จ.นครนายก ผ่านไปยังคลอง 15 ก่อนที่จะถอดเสื้อคลุม และเสื้อชั้นในสีชมพูทิ้งลงน้ำ และหลบหนีไปตามเส้นทางสายรังสิต-นครนายก ก่อนที่จะกลับเข้าไปยังที่บ้านในเขต อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

หลังทางเจ้าหน้าที่ทำการแกะรอยของคนร้ายได้อย่างแน่ชัดแล้ว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกหมายจับเลขที่ จ.406/2560 จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (5 ต.ค.60) และนำพาไปตรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถ จยย.ออนด้าเวฟ สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 5 กย 7694 กทม. 1 คัน หมวกนิรภัยสีดำจำนวน 1 ใบ ตะแกรงใส่ของหน้ารถ จยย. 1 อัน เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน 1 ตัว เงินสดจำนวน 100,124 บาท อาวุธปืนปลอม 1 ประบอก กระเป๋าหนังสะพายคาดเอว 1 ใบ สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น

โดยผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพในชั้นของการจับกุม ตามข้อกล่าวหาว่า "ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธ และใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" ซึ่งผู้ต้องหาระบุตามคำรับสารภาพว่า หลังจากก่อเหตุแล้วได้เงินไปเพียงจำนวน 3 แสนบาทเศษ ส่วนที่เหลือนั้น เชื่อว่าได้ทำตกหล่นในระหว่างเส้นทางการหลบหนี ในขณะที่ถอดเสื้อคลุมชั้นนอกทิ้ง แต่ไม่ทราบจำนวนในเขตพื้นที่คลอง 15

ก่อนที่จะนำเงินจำนวน 3 แสนบาทเศษที่ได้มา แบ่งไปให้แก่ทางภรรยาจำนวน 5 หมื่นบาท โดยพูดโกหกบอกกับภรรยาว่า "ฟลุ๊ก" ได้มาจากการเล่นการพนัน ซึ่งทางฝ่ายของภรรยานั้นไม่ทราบว่าไปก่อเหตุจี้ชิงเงินจากทางธนาคารมา และแบ่งนำไปซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น ส่วนที่เหลือได้นำไปใช้หนี้การพนันจากการเล่นพนันฟุตบอลผ่านทางบ่อนออนไลน์ ที่เปิดรับแทงผ่านทั้งทางโทรศัพท์มือถือ และผ่านทางเว็บไซด์คอมพิวเตอร์ และใช้เป็นเงินทุนในการหลบหนี จนเหลือเงินแค่เพียง 1 แสนบาทเศษ

จากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ พร้อมนายตำรวจระดับสูง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางประชาชนในพื้นที่ชาวตลาดคลอง 16 จำนวนกว่า 500 คน ที่มายืนมุงดูรายล้อมโดยรอบธนาคารดังกล่าว โดยที่ทางธนาคารนั้นไม่ได้อนุญาตให้ทางสื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพยังภายในธนาคารด้วย