บุรีรัมย์- คืบหน้าคนร้ายปล้นรถพ่วง 18 บรรทุกข้าวสาร 20 ตัน ที่บุรีรัมย์ ล่าสุด ตร.ชุดสืบภาค 3 ร่วม ตร.บุรีรัมย์ แบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุด ติดตามไล่ล่า “ไอแจ๊ค” มือปืนกระหน่ำยิงคนขับเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ที่จับกุมได้เมื่อวานนี้ ถูกคุมตัวไว้ที่ สภ.ปะคำ เตรียมส่งฝากขังพรุ่งนี้
วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายขับรถปิกอัพไล่ตามประกบ รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกข้าวสาร 20 ตัน จากจังหวัดนครนายก มุ่งหน้ามาส่งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ก่อนหนึ่งในคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเพื่อขู่ให้จอดรถ จากนั้น นายสุวัตร์ ทบหลง อายุ 36 ปี คนขับรถพ่วงได้กระโดดลงจากรถเพื่อวิ่งหนีลงทุ่งนา แต่คนร้ายยังไล่ตามยิงจนอาการสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา จากนั้นคนร้ายได้ถอดพ่วงลูกออกจอดทิ้งไว้ข้างถนน แล้วขับเอาตัวพ่วงแม่ ซึ่งบรรทุกข้าวสาร 10 ตัน หลบหนีไป โดยเหตุเกิดที่บริเวณถนนสายปะคำ - โนนดินแดง ต.หูทำนบ อ.ปะคำ เวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 2 คน คือ นายกำพล เขจรรักษ์ อายุ 28 ปี ชาว ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ คนขับตัวพ่วงแม่ หลบหนีมาจอดทิ้งไว้ในป่า พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และ นายสัญญา สุริยะบุญ อายุ 43 ปี พี่เขย ที่ นายกำพล นำอาวุธปืนมาซุกซ่อน ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ปะคำ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์และพยายามฆ่า” คาดจะส่งฝากขังที่ศาลนางรองในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.)
ส่วน นายบุญครอง จงจำ หรือ แจ๊ค อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงคนขับรถพ่วงเสียชีวิต ที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ ล่าสุด ทางตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, สภ.ปะคำ, สภ.ละหานทราย, สภ.โนนดินแดง ได้กระจายกำลังออกเป็น 5 ชุด เพื่อออกติดตามไล่ล่าตัว นายบุญครอง หรือ แจ๊ค มาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือขวัญ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะหลบหนีไปได้ไกล ทั้งนี้ ทางตำรวจยังได้ส่งรูปถ่ายของ นายแจ๊ค มือปืนให้กับ สภ. ใกล้เคียงเพื่อช่วยสกัดจับในอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเบื้องต้น ว่า ที่ลงมือก่อเหตุ เพราะโมโหที่รถพ่วงคันดังกล่าวขับตัดหน้า จึงได้ขับรถไล่ตามแล้วใช้ปืนยิงนั้น พฤติการณ์ขัดแย้งกับคำให้การเจ้าหน้าที่จึงยังไม่ปักใจเชื่อ น่าจะเป็นการหวังต่อทรัพย์สินมากกว่า ซึ่งต้องรอติดตามจับกุมตัว นายบุญครอง มือปืนที่ก่อเหตุ มาสอบสวนอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง