ผกก.ดำเนินสะดวกแจงคดียิงลูกชายเสี่ยปางช้าง ทำตามขั้นตอนได้ครบถ้วน

ราชบุรี - ผู้กำกับ สภ.ดำเนินสะดวก ชี้แจง หลังเฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำ โพสต์คดียิงลูกชายเสี่ยปางช้าง ไม่คืบ ยืนยันทำตามขั้นตอนครบถ้วน ได้ทั้งคนยิง คนเก็บปืน และร่วมกระทำความผิด เผยอยากให้ครอบครัวผู้ตายมาชี้จากกล้องวงจรปิดว่าต้องการดำเนินคดีกับใครบ้าง

จากกรณีที่เฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำ ได้นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวผู้เสียหายที่ได้มาชี้แจงต่อทางเพจของแหม่มโพธิ์ดำในเรื่องของคดียิงลูกชายเสี่ยปางช้างดำเนินสะดวก ว่า ไม่มีความคืบหน้าของคดี ไม่มีการเรียกสืบพยาน จึงขอความเป็นธรรมผ่านทางเพจแหม่มโพธิ์ดำ ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อขอพบผู้กำกับกานสภ.ดำเนินสะดวก เพื่อสอบถามรายละเอียดถึงคดีที่เกิดขึ้นว่ามีความคืบหน้าของคดีมากน้อยเพียงใด

พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พงศ์ประภาอำไพ ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก ได้ออกมาชี้แจงว่า กรณีเรื่องนี้อาจจะเป็นการเข้าใจผิดของฝ่ายผู้เสียหาย อาจจะไม่เข้าใจทางเราก็ได้แจ้งความคืบหน้าของคดีไปแล้ว หรืออาจจะสับสนในการที่ติดตามคดีเรื่องนี้ ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องเราก็เริ่มทำการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายสุทิน หรือเท่ห์ ได้ในวันที่ 13 กันยายน 2560 ต่อมา ก็ได้จับกุมตัว นายธนายุทธ หรือเจ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เก็บอาวุธปืนไปในข้อหามีอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืน

ต่อมา วันที่ 21 ก็ได้ นายณรงค์ หรือแบงค์ ซึ่งเป็นผู้ที่เตะบริเวณใบหน้าของผู้ตาย ก็ได้แจ้งข้อกล่าวหา ช่วยเหลือผู้ซึ่งกระทำความผิดซึ่งต้องหากระทำความผิดไม่ใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้รับโทษ อีกข้อหาหนึ่ง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักดำเนินสะดวก ก็ได้ดำเนินการควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งฝากขังไปแล้ว ส่วน นายณรงค์ ได้แจ้งข้อหา และพักฟ้องเป็นคดีศาลแขวง ส่วนเรื่องที่สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเราก็รวบรวมสอบสวนแล้วทั้งหมด 13 ปาก ที่เกี่ยวข้องในคดี

ขณะนี้ผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ คือ อาวุธปืน และของกลางในที่เกิดเหตุคือ หัวกระสุนปืน 3 หัว และปลอกกระสุนปืน 5 ปลอก ผลออกมาก็ตรงกัน เป็นอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และปลอกกระสุนที่ยิงมาจากปืนกระบอกที่เป็นของผู้ต้องหานี้จริง

ส่วนที่ยังขาดอย่างเดียว คือ DNA ของผู้ต้องหา กับลายนิ้วมือ ซึ่งได้เร่งให้พนักงานสอบสวนติดตามผลกันอยู่ เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้วก็จะรีบสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 แต่ผู้ต้องหาคนที่ 2 จะแยกเป็นอีกคดีหนึ่ง เป็นคดีของคนเก็บอาวุธปืน แต่ทุกครั้งที่จะต้องดำเนินคดีได้แจ้งพนักงานสอบสวน แม่ของผู้เสียชีวิต และภรรยา ได้บอกว่าให้เอาทนาย หรือผู้รู้กฎหมายมาร่วมกับพนักงานสอบสวน ให้มาดูกล้องวงจรปิดอีกครั้งหนึ่ง เก็บรายละเอียดว่าใครเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้บ้าง ซึ่งได้สั่งกำชับเลยว่า ต้องดำเนินคดีทุกคน ไม่ละเว้น

ทั้งนี้ ทางด้าน ร.ต.อ.สุชาติ ชัยเกียรติยศ พนักงานสอบสวนได้เชิญภรรยาผู้เสียชีวิต และมารดาของผู้เสียชีวิต พร้อมกับทนายความมาร่วมรับฟังการสอบสวนอยู่ตลอด นอกจากนี้ พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ลายรักษ์ รองผู้กำกับการสอบสวนหัวหน้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร อ.ดำเนินสะดวก ก็ได้เชิญมารดา ภรรยา และทนายความมาร่วมฟังการสอบสวนทุกครั้ง และเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2560 ได้เชิญตัว นายกิตติธัต หรือก็อต หรือฉายาว่ารูปิง แสงพลอย มาสอบสวนเป็นพยานเรียบร้อยแล้ว

“เป็นธรรมดาของอาชีพตำรวจที่ประชาชนทั่วไปถูกสังคมเปรียบเสมือนเป็นผ้าขี้ริ้ว อาจจะมองว่าเป็นสิ่งแปดเปื้อนในสังคม แต่อาชีพตำรวจอย่างพวกเราถือว่าเป็นผ้าขี้ริ้วที่ทำความสะอาดให้สังคม อยากให้สังคมพิสูจน์จากการทำงานของตำรวจ ไม่อยากให้รีบตัดสินว่าทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ในการทำงาน”