อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามทุจริตในภาครัฐ บุกรวบตัว 2 สาวอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เรียกรับเงินทอนโครงการ 9101 สารภาพเรียกรับจริง แต่ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว ต้องการเอาไปใช้ทำในโครงการอื่น เบื้องต้น ถูกแจ้ง 2 ข้อหาหนัก ทั้งเรียกรับสินบน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ช่วงค่ำวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศานต์ชาติ ตึดสันโดษ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญ ปปท.เขต 3 นครราชสีมา พร้อมด้วย นายศุภชัย ไชยหงษ์ ผอ.ป.ป.ช.จังหวัดอุลราชธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้นำกำลังดักซุ่มภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาวนารมย์ ถ.เลี่ยงเมือง ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี เพื่อจับกุมกรรมการโครงการ 9101 ตามรอยพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืนตำบลหนองกินเพล อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เรียกรับเงินส่วนต่าง จำนวน 371,500 บาท จากผู้ที่ชนะการประมูลโครงการจัดทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพของตำบลหนองกินเพล
เมื่อถึงเวลา นางรัชนี คมขำ อายุ 38 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกินเพล พร้อมด้วย น.ส.อมรรัตน์ ขยายวงศ์ อายุ 33 ปี แพทย์ประจำตำบล ได้ขับรถยนต์เข้ามาพบกับ นายโชค (นามสมมติ) ผู้รับเหมาที่เข้าร่วมประมูลจัดส่งวัสดุอุปกรณ์ใช้ในการทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ เพื่อรับเงินส่วนต่างดังกล่าว
แต่ไม่ทันที่ นายโชค จะมอบซองบรรจุเงิน จำนวนกว่า 370,000 บาท ซึ่งได้นำไปลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว นางรัชนี เกิดไหวตัวทันพยายามส่งสัญญาณให้ น.ส.อมรรัตน์ ขับรถหลบออกจากจุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่ ปปท. ป.ป.ช. และตำรวจที่ดักซุ่มอยู่ ได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมไว้ และนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้เรียกรับเงินจากนายโชค จริง แต่ไม่ได้นำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว เป็นการเรียกรับในฐานะที่เป็นกรรมการ และจะนำเงินส่วนต่างนี้ไปใช้จ่ายในโครงการอื่นต่อไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์ตอบแทนโดยมิชอบ คุมตัวไว้ดำเนินคดี
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2560 นายโชค ได้เข้าประมูลเสนอราคาการขายวัสดุทำปุ๋ยชีวภาพต่อคณะทำงานในโครงการ 9101 ตามรอยพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิตระดับชุมชนของตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ ในราคา 871,500 บาท
แต่นางรัชนีและคณะกรรมการให้นายโชค ออกใบเสร็จรับเงินจำนวน 1,249,000 บาท และขอรับเงินส่วนต่างที่เกินไปกว่า 370,000 บาท โดยอ้างจะนำมาใช้จ่ายในโครงการอื่น หากไม่ทำตามเงื่อนไข คณะกรรมการของโครงการจะยกเลิกการทำสัญญาจ้างกับนายโชค
นายโชค จึงนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งต่อ ผอ.ป.ป.ช.อุบลราชธานี ซึ่งทาง ป.ป.ช.เห็นว่าเรื่องดังกล่าวนี้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ปปท.เขต 3 นครราชสีมา จึงประสานเจ้าหน้าที่ ปปท.มาทำการจับกุม โดยในช่วงบ่ายนัดแนะให้ผู้ต้องหามารับเงินที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านทัพไท ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามนัด
จึงได้นัดส่งมอบเงินอีกครั้งในช่วงค่ำที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.วนารมย์ ถ.เลี่ยงเมือง ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ถึงเวลาผู้ต้องหาทั้งสองได้เดินทางมาพบกับนายโชค ผู้รับเหมาจนถูกจับกุมได้ในที่สุด