ชัยภูมิ - ผู้ว่าฯ ชัยภูมิคนใหม่สั่งเร่งเยียวยาเด็กนักเรียน ม.2 โรงเรียนดัง เหยื่อครูโหดตบฟันหัก พร้อมเอาผิดทั้งวินัย อาญาเป็นการด่วน ด้าน ผอ.สพม.เขต 30 ต้นสังกัดสั่งย้ายด่วนครูมือตบ และตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรงภายใน 15 วัน รวมทั้งครูอีกรายที่ร่วมข่มขู่ไม่ให้เด็กเอาเรื่อง ขณะตำรวจเตรียมสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลได้ไม่เกิน 5 ต.ค.นี้
วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าต่อกรณีผู้ปกครองเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อเอาผิดครูโหดตบลูกชาย อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง จ.ชัยภูมิ ฟันหักและไม่ยอมรับผิดชอบ ซ้ำข่มขู่เด็กและครอบครัวไม่ให้เอาเรื่อง จนทำให้ครอบครัวหวาดผวากลัวถูกครูกลั่นแกล้งไม่ให้ลูกเรียนจบการศึกษา พร้อมขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น
ล่าสุดวันนี้ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ที่เพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ได้เพียง 2 วัน ทราบเรื่องและได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (ผอ.สพม.) เขต 30 จังหวัดชัยภูมิ พร้อมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด ร่วมกับนักสังคมสงเคราะห์และหน่วยแพทย์ เร่งลงไปช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กและครอบครัวเป็นการด่วน
รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีให้เร่งติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดครูทั้งทางวินัย และคดีอาญาโดยเร็ว และไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเด็กที่มีสภาพจิตใจหวาดผวา ไม่กล้าไปโรงเรียน
ทางด้าน นายปราโมทย์ ภูมิพันธ์ ผอ.สพม.เขต 30 จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นจากโรงเรียนต้นสังกัดแล้ว ซึ่งมีมูลและเด็กนักเรียนถูกกระทำจริง จึงได้มีคำสั่งลงวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมาเพื่อย้ายครูคนดังกล่าวที่ตบเด็กนักเรียนจนฟันหักออกจากพื้นที่โรงเรียนมาประจำที่สำนักงาน สพม. เขต 30 ไว้ก่อนแล้ว ในระหว่างที่จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยละเอียดอีกครั้งภายใน 15 วัน เพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงเพิ่มเติม รวมทั้งครูอีกราย หรือคนอื่นๆ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการข่มขู่เด็ก และครอบครัวว่าจะมีผลกระทบต่อเรื่องการเรียนในอนาคตของเด็กจนทำให้เด็กไม่กล้ามาโรงเรียนเพิ่มเติมด้วย
นายปราโมทย์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นครูที่ก่อเหตุชี้แจงเพียงวาจาว่าเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นเหตุมาจากอีกเรื่อง และตามหลักฐานมีการลงบันทึกยอมรับผิดว่าทำเด็กจริงเพราะเกิดโทสะ ซึ่งมีการลงลายมือชื่อครูก่อเหตุยอมรับด้วย ถือว่ามีความผิดจริงในเบื้องต้น จึงต้องมีการดำเนินการตามระเบียบราชการ ซึ่งจากนี้ไปไม่อยากให้มีครูก่อเหตุในลักษณะนี้อีก
เรื่องนี้ทางต้นสังกัดไม่เคยนิ่งนอนใจ เมื่อทราบเรื่องจึงมีการดำเนินการสั่งย้ายครูรายนี้ออกจากพื้นที่โรงเรียนมาประจำที่สำนักงานเขตไว้ก่อนแล้ว รวมทั้งเรื่องการเยียวยาสภาพจิตใจเด็ก ทั้งเรื่องการรักษาฟันหักที่มีค่าใช้จ่ายก็จะได้ลงไปช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไปเพื่อช่วยกันเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กให้กลับคืนมาโดยเร็วด้วย พร้อมดำเนินการเอาผิดทางวินัยทางราชการกับครู
ส่วนทางด้านคดีอาญาก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการควบคู่กันไป ขอให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจเรื่องนี้ เพราะทั้งตนและผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหากับกรณีที่เกิดขึ้น และดำเนินการกับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยเร็วเช่นกัน
วันนี้เจ้าหน้าที่จากหลายฝ่าย ทั้งหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด, บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด, นักสังคมสงเคราะห์และหน่วยแพทย์ ได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กและครอบครัวเป็นการด่วนแล้ว
ล่าสุดทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ชัยภูมิ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานไปยังครอบครัวพ่อแม่และเด็กอายุ 14 ปีรายนี้เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกับทางฝ่ายตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องศาลภายในไม่เกิน 5 ต.ค.นี้ต่อไป