ศรีสะเกษ - พ่อแม่ ผอ.อ้อยนำญาติบุกค่ายทหารพรานที่ 23 ตามหาร่องรอยของลูกสาวแต่ก็ไม่พบร่าง ด้านพ่อ ผอ.อ้อยเผยมีร่างทรงกว่า 3,000 คนมาให้ข้อมูลช่วยค้นหาแต่ไร้ผล รับสิ้นเงินตามหาลูกสาวไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท แต่ยันไม่ล้มเลิกความตั้งใจค้นหาลูกสาวให้พบ
วันนี้ (30 ก.ย. 60) ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พร้อมด้วยนางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี, นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย ซึ่งเป็นพ่อแม่และอาของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการกองการศึกษา องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 60 หลังจากที่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ อ.กันทรลักษ์
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน พร้อมญาติประมาณ 25 คน ได้มาขอเข้าพบ พ.อ.สุรชัย มีหอม ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เพื่อขอเข้าตรวจค้นหาร่องรอยหลักฐานการหายตัวไปของ ผอ.อ้อย เนื่องจากว่าผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ คือ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง สังกัดกรมทหารราบที่ 6 เคยมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บริเวณเขาพระวิหารและเคยพักอาศัยอยู่ในค่ายแห่งนี้ พ.อ.สุรชัยได้มอบหมายให้ พ.ต.กฤศณัฏฐ์ เขียนปัญญา ตำแหน่งนายทหารฝ่ายการข่าว หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 มาให้การต้อนรับและรับหนังสือ และจัดเจ้าหน้าที่ทหารพรานอำนวยความสะดวกในการเข้าตรวจสอบ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพการตรวจค้น โดยพ่อแม่ญาติของ ผอ.อ้อยใช้เวลาในการตรวจค้นประมาณ 35 นาทีจึงกลับออกมา
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนและญาติพี่น้องได้เข้าไปตรวจค้นที่บริเวณห้องพักที่เคยเป็นที่พักของ ร.อ.ศุภชัย ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ปรากฏว่าภายในห้องพักว่างเปล่าไม่มีสิ่งของใดๆ ภายในห้องเหลืออยู่ จากนั้นได้ไปตรวจค้นรอบบริเวณค่ายแต่ไม่พบร่องรอยของ ผอ.อ้อยแต่อย่างใด ตนต้องขอขอบคุณพ.อ.สุรชัย และคณะนายทหารที่อำนวยความสะดวกในการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ทำให้ตนและญาติพี่น้องหายคลางแคลงใจว่าอาจจะมีการซุกซ่อนร่างของ ผอ.อ้อยไว้ภายในค่ายทหารพรานแห่งนี้แล้ว
นับตั้งแต่ตนได้ประกาศไปว่าจะให้รางวัล 1,000,000 บาท เมื่อพบ ผอ.อ้อยที่ยังมีชีวิตอยู่ และรางวัล 500,000 บาท หากพบร่างของ ผอ.อ้อย ปรากฏว่ามีการแจ้งเบาะแสเข้ามาแล้วกว่า 3,000 ครั้ง ส่วนมากแล้วจะเป็นร่างทรงที่มาเข้าทรงแจ้งเบาะแส แต่ว่าไม่พบร่องรอยของ ผอ.อ้อยแต่อย่างใด ถึงขณะนี้ตนสิ้นเงินค่าใช้จ่ายในการตามหา ผอ.อ้อยไปแล้วกว่า 1,000,000 บาท แต่ก็ยังไร้วี่แวว ตนยอมรับว่าท้อ แต่จะไม่ล้มเลิกการติดตามหา ผอ.อ้อยลูกสาวสุดที่รักของตนแต่อย่างใด
จากนั้นนายบุญเลิศและญาติพี่น้องได้เดินทางโดยรถปิกอัพ 2 คัน ไปที่กรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี เพื่อที่จะไปเข้าพบ พ.อ.จักรพงศ์ จันทร์สุทธิประภา ผบ.ร.6 เพื่อยื่นหนังสือขอเข้าไปค้นหาร่องรอยของ ผอ.อ้อย โดยขณะนี้ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง ได้รับคำสั่งให้มาประจำอยู่ในค่ายทหารแห่งนี้ด้วย
