ชาวบ้านริมอ่างน้ำลำพอกโชว์ภูมิปัญญา ทำเครื่องมือดักปลาจากเปลนอนเด็ก

สุรินทร์ - เผยวิถีชีวิตชาวบ้านริมอ่างน้ำลำพอก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแปรรูปเปลนอนของเด็กมาเป็นเครื่องมือดักปลา ใช้ดักปลาจุดที่น้ำไหลแรงทั้งฝายน้ำล้น ประตูระบายน้ำ ได้ปลาพอจำหน่ายเลี้ยงชีพ

ที่อ่างเก็บน้ำลำพอก ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายโชคทวี วงค์ษาเสก อายุ 42 ปี เลขที่ 81 ม.4 บ้านตาพรม ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ กำลังใช้ตาข่ายพลาสติกสีเขียวที่เขาดัดแปลงมาเป็นเปลสำหรับดักปลาตามประตูระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำลำพอก แต่ละวันสามารถดักจับปลาได้เป็นจำนวนมาก เปลดักปลานี้ภาษาเขมรพื้นบ้านท้องถิ่นเรียกว่าดรึง มีรูปร่างลักษณะทรงสามเหลี่ยมบ้าง สี่เหลี่ยมบ้าง ที่ชาวบ้านทำขึ้น โดยใช้ไม้ไผ่ความยาวประมาณ 3 เมตร แล้วแต่ว่าใครจะทำอันเล็กอันใหญ่


ใช้ตาข่ายพลาสติกสีเขียวทำเป็นผืนตามแบบโครงสร้างของเปลสามเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม จะใช้เชือกร้อยตาข่ายเขียวติดกับขอบไม้ไผ่ ให้ตรงกลางตาข่ายเป็นแอ่งกระทะ เวลาที่ปลากระโดดขึ้นมาจะอยู่ตรงกลางตาข่ายสีเขียวโดยจะกระโดดออกไปไม่ได้ เมื่อถึงเวลาดักปลาจะเอาไปดักไว้ตรงจุดน้ำไหลแรง อย่างฝายน้ำล้น หรือทางประตูระบายน้ำจากอ่างลงไปในลำคลอง เปลที่ว่านี้จะดักใส่ไว้ให้เหนือน้ำ ไม่เอาลงไปจุ่มไว้ในน้ำเหมือนกับอุปกรณ์ดักปลาทั่วๆ ไป ใช้เชือกผูกไว้เหนือน้ำสูงสักประมาณ 1 ฟุต หรือ 1 ศอก เมื่อปลาแหวกว่ายทวนน้ำขึ้นมาพอมาสุดตรงพื้นปูนที่น้ำไหลลงปลาก็จะกระโดดขึ้นทันที ปลาก็จะตกลงไปในเปลที่ดักรอไว้พอดี

นายโชคทวี วงค์ษาเสก อายุ 42 ปี เลขที่ 81 ม.4 บ้านตาพรม ต.ยาง อ.ศีขรภูมิ ที่ทำเปลดักปลามาดักไว้ตรงจุดประตูเปิด-ปิด ระบายน้ำลง จะลงดักไว้ในตอนเช้า ช่วงเที่ยงจะมาดูและตอนเย็นๆ อีก พอช่วงกลางคืนก็จะยกขึ้นไว้โดยใช้เชือกผูกไว้ให้สูงจะไม่เอาลงไปดัก เป็นบางช่วงที่ได้ปลาเยอะมาก 10 ถึง 20 กิโลกรัม หากวันได้น้อยสัก 4-5 กิโลกรัม จำหน่ายกิโลกรัมละ 70 บาท ปลาที่ได้ส่วนมากจะเป็นปลาขาวหางแดง ได้มาก็ทำปลาร้าไว้บ้าง ใส่ตู้เย็นไว้ทำเป็นอาหาร และยังแบ่งให้เพื่อนบ้านไปทำกินอีกด้วย