ตาก - ตาวัย 70 ปีขับรถยนต์บรรทุกของเก่า แต่เกิดเพลิงไหม้รถยนต์แบบฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุในระหว่างขับขี่รถออกจากบ้านพักผ่านกลางชุมชนอำเภอแม่สอด จนเพลิงไหม้รถยนต์เสียหายทั้งคันหวิดถูกย่างสด
เมื่อช่วงกลางดึก (29 ก.ย.) คืนที่ผ่านมา ที่ทำการปกครองอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ โดยเหตุเกิดท้ายชุมชนบัวคูณ ติดคลองส่งน้ำชลประทานแม่สอด เขตเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก โดยหลังรับแจ้งเหตุฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดต้องประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดจำนวน 2 คัน พร้อมนำกำลังสมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 พร้อมอาสาสมัครจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เขตอำเภอแม่สอด รีบเดินทางไประงับเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ท้ายชุมชนขนาดใหญ่ และมีบ้านเรือนของประชาชนปลูกสร้างที่พักอยู่อย่างหนาแน่น ขณะที่ถนนเลียบคลองชลประทาน เจ้าหน้าที่พบรถยนต์บรรทุกสินค้าจำพวกของเก่ามือสอง หมายเลขทะเบียน ฒฬ 9179 กรุงเทพฯ สภาพรถกำลังมีเพลิงไหม้อย่างรุนแรงทั้งคัน สลับกับการระเบิดอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
จนทำให้กลุ่มไทยมุงจำนวนมากต่างตกใจวิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย จนในเวลาต่อมาหน่วยดับเพลิงจากเทศบาลนครแม่สอดได้ระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังโหมไหม้รถยนต์อย่างรุนแรง โดยต้องใช้เวลานานกว่า 10 นาที เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยภายหลังเพลิงสงบพบว่าเพลิงได้เผาไหม้รถยนต์ได้รับความเสียหายกลายเป็นเศษเหล็กหมดทั้งคัน
จากการสอบถาม นายจรูญ ปัญญาสิทธิ์ อายุ 70 ปี เจ้าของรถคันเกิดเหตุเล่าเหตุการณ์ช่วงนาทีเป็นนาทีตายว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่าในเขตชายแดนอำเภอแม่สอด โดยก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถยนต์คันเกิดเหตุออกจากบ้านพักช่วงกลางดึกเพื่อเดินทางออกไปทำธุระส่วนตัวในเขตตัวอำเภอแม่สอด แต่พอขับรถยนต์ออกจากบ้านพักมาได้เพียงระยะทางไม่ถึง 200 เมตร จู่ๆ ภายในรถยนต์ก็มีกลิ่นเหม็นไหม้ และเกิดเพลิงไหม้ตามมาอย่างรวดเร็ว
ตนในขนาดนั้นต้องรีบตั้งสติ ก่อนรีบตัดสินใจขับรถที่กำลังมีเพลิงไหม้ออกจากชุมชนที่มีบ้านเรือนอย่างหนาแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้เพลิงลามไปไหม้บ้านเรือนสองข้างทาง จนสามารถขับรถยนต์คู่ใจที่กำลังกลายเป็นทะเลเพลิงไปจอดบนถนนเลียบคลองชลประทานได้สำเร็จ จากนั้นตนจึงรีบเปิดประตูรถออกและรีบกระโดดหนีเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิดจนเกือบถูกย่างสด ก่อนจะพยายามตักน้ำในคลองชลประทานมาดับเพลิงแต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากรถยนต์คันนี้เป็นระบบแก๊สจนทำให้เพลิงไหม้รถยนต์ทั้งคันในเวลาอันรวดเร็ว
จนในเวลาไม่นานมากนัก หน่วยดับเพลิง พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และหน่วยกู้ชีพจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์แม่สอด จึงเดินทางมาช่วยดับเพลิงได้สำเร็จ โดยเพลิงไม่ได้ลุกลามไปไหม้บ้านเรือนใกล้เคียงแต่อย่างใด ท่ามกลางความโล่งใจของคนในชุมชนจำนวนมากที่มามุงดูเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้รถยนต์เบื้องต้นยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง ต้องรอตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตาก เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป