นครพนม - รับออกพรรษา ไฟไหม้บ้านขณะเจ้าของบ้านเตรียมสถานที่ทำบุญหาคนตาย ระดมน้ำดับเพลิงนานร่วมครึ่งชั่วโมงถึงดับไฟได้ แต่เงินสดร่วมหมื่นบาทพร้อมทองคำรูปพรรณอีก 5 บาทที่เก็บไว้ในบ้านถูกเผาเรียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ (29 ก.ย.) ร.ต.อ.ชยุตพล กู่ชัยภูมิ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 75 หมู่ 1 ต.ไชยบุรี ขณะนี้ไฟกำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก. ร.ต.อ.สุบรรณ ตักโพธิ์ รอง สวป. และเจ้าหน้าหน่วยกู้ภัย มีรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัด
โดยบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำสงคราม ห่างจากปากน้ำที่บรรจบกันระหว่างแม่น้ำโขงและแม่น้ำสงครามเพียง 300 เมตร เพลิงลุกไหม้บริเวณชั้นสองของตัวบ้าน และด้านหน้ามีเต้นท์กางอยู่หลายหลัง เหมือนกำลังจัดงาน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงได้
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นของนายอุไร อภิกุลชัยสุทธิ์ ข้าราชการครูบำนาญ วัย 88 ปี พักอาศัยอยู่กับลูกสาวชื่อ น.ส.นิลาพร อภิกุลชัยสุทธิ์ อายุ 50 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.ไชยบุรี และเป็นคณะกรรมการโครงการย้อนรอยเมืองไชยบุรี
ก่อนเกิดเหตุที่บ้านเตรียมการจัดงานทำบุญหาผู้ล่วงลับ โดยมีหมายกำหนดการจะเลี้ยงพระเพลในวันเดียวกัน จึงนำเต็นท์มากางเพื่อรองรับผู้ที่จะมาร่วมทำบุญ มีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมาช่วยเตรียมสิ่งของกันอยู่บริเวณข้างตัวบ้าน ขณะนั้นได้ยินเสียงดังจากข้างบนชั้นสอง หลายคนคิดว่ามีของหล่นจึงไม่ได้เอะใจ แต่มีคนหาปลาอยู่ในลำน้ำสงครามมองเห็นควันไฟโขมง ด้วยความสงสัยจึงโทรศัพท์สอบถามคนแถวนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ทันเพราะเพลิงได้โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
ส่วนนายอุไรเจ้าของบ้านที่มีสภาพร่างกายเดินไม่ค่อยสะดวก ถูกญาติๆ หามหนีตายออกจากบ้าน ส่วน น.ส.นิลาพรเห็นเพลิงเผาผลาญบ้านตนเองถึงกับเป็นลมล้มพับ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลอยู่ครู่ใหญ่
ภายหลังเจ้าหน้าที่สกัดเพลิงสงบแล้ว น.ส.นิลาพรเล่าว่า บ้านหลังนี้สร้างมากว่า 60 ปี ระหว่างนั้นก็ต่อเติมปรับงปรุงจนอยู่ในสภาพดี แต่ไม่ได้เปลี่ยนสายไฟภายในใหม่ ความเสียหายนอกจากบ้านแล้วยังมีเงินสดที่เก็บไว้สำหรับใช้ในงานทำบุญประมาณ 10,000 บาท ถูกเพลิงไหม้จนไม่เหลือซาก และทองคำรูปพรรณอีก 5 บาทก็ถูกเพลิงเผาเหลือแต่เถ้าเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในซากบ้าน โดยเจ้าของบ้านต้องค้นหาก้อนทองคำที่ถูกไฟไหม้ในกองเพลิงก่อน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะมีร่องรอยต้นเพลิงจากคัตเอาต์ ซึ่งจะต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
