ภาคอีสาน - ทุกจังหวัดในภาคอีสานต่างร่วมร้องเพลงชาติหน้าเสาธง และอัญเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยครบรอบ 100 ปี โดยชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ที่พระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงประจำชาติไทยตั้งแต่ 28 ก.ย. 2460
วันนี้ (28 ก.ย.) รัฐบาลได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันระลึกวันพระราชทานธงชาติไทย และครบรอบ 100 ปี การประกาศใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ ที่พระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย และเพื่อความภาคภูมิใจ เป็นสัญลักษณ์ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ และให้เริ่มในวันที่ 28 กันยายน 2560 เป็นปีแรก แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ
โดยที่หน้าเสาธงศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่ นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำนายอำเภอทั้ง 26 อำเภอ พร้อมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ สวมชุดสีกากีข้าราชการไทยเข้าแถวหน้าเสาธง จนกระทั่งเวลา 08.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมร้องเพลงชาติไทยและเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา
ขณะที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๕ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เมื่อเวลา 08.00 น. วันเดียวกันนี้ นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าฯ อุดรธานี เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน และข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เข้าร่วมทำกิจกรรมร้องเพลงชาติอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทางด้านจังหวัดนครพนม ที่บริเวณโรงเรียนนครพนมวิทยาคม อ.เมืองนครพนม นายประทีป ฤทธิกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำหัวหน้าส่วนราชการ และตัวแทนทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญธงชาติขึ้นสู่เสาในเวลา 08.00 น. มีการบรรเลงเพลงชาติจากวงดุริยางค์ของโรงเรียนนครพนมพิทยาคม ไปพร้อมกับการร่วมร้องเพลงชาติไทยของทุกคนที่มาร่วมงานวันครบรอบ 100 ปี
ธงชาตินับเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญยิ่งของแต่ละชาติและมีความหมายลึกซึ้ง ซึ่งทุกประเทศถือว่าเป็นของสูงควรให้ความเคารพ หวงแหน และตามประวัติศาสตร์เรื่องธงชาติที่บันทึกไว้ ประเทศไทยเริ่มมีการใช้ธงชาติเป็นสัญลักษณ์ เมื่อสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นธงสีแดง โดยจะประดับไว้ตามเรือเดินสมุทรต่างๆ จากนั้นก็มีวิวัฒนาการมาเป็นธงจักรสีขาวในผืนผ้าแดง มาเป็นธงช้างสีขาวบนผ้าสีแดง
ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2460 ให้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทยสืบมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังทรงใช้พระนามแฝง “วรรณะสมิต” อธิบายถึงความหมายของสีทั้ง 3 ลงตีพิมพ์ในหนังสือ “ดุสิตสมิต” ฉบับพิเศษ 2461 มีข้อความว่า “ขอร่ำรำพรรณบรรยาย ความคิดเครื่องหมายแห่งสีทั้งสามงามถนัด ขาวคือบริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายพระไตรรัตน์และธรรมะคุ้มจิตไทย แดงคือโลหิตไซร้ ซึ่งยอมสละได้เพื่อรักษาชาติ ศาสนา น้ำเงินคือสีโสภา อันจอมประชา ธ โปรดเป็นของส่วนองค์ จัดริ้วเข้าเป็นไตรรงค์
จึงเป็นสีธงที่รักแห่งชาวไทย ทหารอวตารนำไป ยงยุทธวิชัยวิชิตก็ชูเกียรติสยาม” และเพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติและเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ
โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่นำโดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559 ได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันพระราชทานธงชาติไทยแต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ โดยให้เริ่มในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560 เป็นปีแรก
