ขนส่งใช้ยาแรงปรับอูเบอร์สูงสุด ทะเลาะโดนทั้งคู่ ดื้อลามถึงสหกรณ์

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ใช้ยาแรง! ขนส่งจัดระดมสมองร่วมตำรวจ ทหาร และเมืองพัทยา แก้ปัญหาทะเลาะวิวาทรถอูเบอร์-แท็กซี่ ทำภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย ก่อนได้ข้อสรุปใช้ยาแรง เจออูเบอร์ทำผิดปรับสูงสุด พักใช้ใบขับขี่ 3 เดือน หากมีเหตุฟาดปากโดนทั้งคู่ ถ้ายังดื้ออีกสหกรณ์โดนด้วย

จากกรณีเกิดเหตุคนขับรถอูเบอร์ และรถแท็กซี่พัทยามีปากเสียงกันจนถึงขั้นลงมือลงไม้ลงมือกันจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งที่ผ่านมา หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน จนในที่สุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดเหตุทำนองเดียวกันนี้ในเขตเมืองพัทยา จนเป็นกระแสข่าวสู่สาธารณชน และมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อกรณีที่เกิดขึ้นในโซเชียลเน็ตเวิร์กถึงภาพพจน์การท่องเที่ยวของประเทศนั้น

ล่าสุด วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้มีการจัดประชุมแก้ไขปัญหาดังกล่าวขึ้น โดยมี นายมโนท ชาญวัฒนศิลป์ ผู้ตรวจราชการกรม รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย พ.อ.สหัสดนย์ ธเนศชัยพิทักษ์ หัวหน้ากองกำลังพล มทบ.14 ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เมืองพัทยา และผู้ประกอบการสหกรณ์รถโดยสารสาธารณะในพื้นที่เข้าร่วมพิจารณาหาทางออก

นายมโนท ผู้ตรวจราชการกรม รักษาราชการแทนขนส่งจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประ ชุมเพื่อหาข้อยุติเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หลังจากมีเหตุการณืทะเลาะวิวาทจนเป็นข่าวครึกโครม เพราะการทะเลาะวิวาทไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังเป็นการถ่วงความเจริญ ในที่ประชุมได้มีการเสนอแนวทาง และมาตรการแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออกเพื่อความเป็นธรรมให้ทุกฝ่าย

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้มีข้อสรุปในเรื่องปัญหาทะเลาะวิวาทของอูเบอร์ และรถแท็กซี่พัทยา ซึ่งหากพบว่าฝ่ายรถอูเบอร์มีการกระทำความผิด หรือพบเห็นว่าใช้รถรับจ้างสาธารณะโดยไม่ชอบ จะถูกดำเนินการทางกฎหมายด้วยการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงินสูงสุด 2,000 บาท และงดใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 3 เดือน ในส่วนของรถแท็กซี่นั้นต้องไม่มีการล้อมกรอบ หรือกระทำการยั่วยุจนเกิดความรุนแรง และหากพบว่าเหตุการณ์บานปลายจนมีการลงไม้ลงมือกันขึ้น จะดำเนินการทั้งสองฝ่ายโดยไม่มีข้อผ่อนปรน สิ่งสำคัญคือ ปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนคือ การใช้บริการแท็กซี่ที่ไม่ยอมกดมิเตอร์ กรณีนี้ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และร้องขอให้ทางผู้ประกอบการให้ความร่วมมือด้วย แต่จากการร้องเรียนของผู้ประกอบการเองก็ทราบว่า อัตราค่าบริการที่รัฐกำหนดนั้นก็ไม่เพียงพอ หรือคุ้มค่าต่อการเดินรถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นการพิจารณาในระดับสูงที่อาจจะมีการนำเสนอเพื่อพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ที่กระทำผิดในครั้งแรกมีการกระทำผิดเป็นครั้งที่สอง ด้วยการลักไก่มาให้บริการทัง้ที่ใบอนุญาตขับขี่ถูกพักใช้นั้น ก็จะมีการเพิ่มโทษตามลำดับความผิดที่สูงขึ้นตามลำดับ และหากยังมีการฝ่าฝืน หรือดื้อแพ่ง สหกรณ์ผู้จดทะเบียนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกันด้วย ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกฝ่ายต้องช่วยกันแก้ไข เพื่อ่ให้คนดีๆ มีที่ทำมาหากิน และกำจัดคนไม่ดีให้หมดไปจากสังคมด้วย