แรงหึง! รวบแล้วสองหนุ่มมือปืนยิงขมับอริดับกลางสวน อ้างโกรธผู้ตายชอบมองแฟนสาว

หนองคาย - ตำรวจหนองคายตามรวบสองหนุ่มหลังก่อเหตุยิงหนุ่มคู่อริดับคาสวนสับปะรด เค้นสอบรับสารภาพ คู่อริหนุ่มชอบมองแฟนสาวตัวเอง เกิดหึงหวงจนเลือดขึ้นหน้า บันดาลโทสะใช้ปืนตบหัวก่อนจ่อยิง แล้วนำรถจักรยานยนต์ผู้ตายไปโยนทิ้งลงลำห้วย ยืดอกรับแมนๆ ไม่คิดหนี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจากที่ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย. 60 ร.ต.อ.นิติ หาญอาษา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ได้รับแจ้งพบคนถูกยิงเสียชีวิตกลางสวนสับปะรดริมถนน ระหว่างบ้านศูนย์กลางกับบ้านน้ำทอนใต้ ต.ด่านศรีสุข หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สมบัติ นาแถมพลอย ผกก.สภ.โพธิ์ตาก จัดเจ้าหน้าที่ออกสืบสวน

จนทราบว่าผู้ตายคือ นายวิศเวช หลวงปางอ้าย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 2 ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย พร้อมทั้งสั่งการให้ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ต.เมธี ดีบุรี สว.สส.สภ.สระใคร, ร.ต.อ.คพัชร คงสูงเนิน รองสารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย นำกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ

จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น.คืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายกฤตย์ ทองรัตน์ หรือหนึ่ง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ 1 ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย โดยจับได้ขณะนั่งเล่นอยู่บ้านแฟนสาวที่บ้านดงเลา ต.ด่านศรีสุข พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ใช้กระสุนเบอร์ 12 และหลังจากนั้นได้ติดตามจับกุมตัว นายกฤตพัตร์ สัมพาลี หรือเอ็ม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 375 หมู่ 1 ต.ด่านศรีสุข ผู้ร่วมก่อเหตุได้ที่บ้านพักด้วย

นอกจากนี้ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างการหลบหนีคือ นายจตุรพักตร์ ตอนเหนือ หรือ แจ็ค อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 4 ต.ด่านศรีสุข ซึ่งจะได้ออกหมายจับต่อไป

พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมผู้ต้องหามาให้เร็วที่สุด ซึ่งเมื่อทราบว่าผู้ตายเป็นใคร เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สอบถามญาติจนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายออกจากบ้านบอกว่าจะไปใช้หนี้เพื่อนที่ อ.โพธิ์ตาก แล้วก็หายไปไม่กลับบ้าน ตำรวจสืบจนทราบว่าเพื่อนที่ผู้ตายไปหานั้นคือนายกฤตพัตร์ จนนำมาสู่การจับกุม ซึ่งปมก่อเหตุมาจากความหึงหวง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทั้งสองคนร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตายไว้ก่อน

จากการสอบสวนนายกฤตย์ ทองรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นนายวิศเวช ผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายเอ็ม เวลาไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เจอกัน นายวิศเวช ชอบแอบมองแฟนสาวของตนซึ่งกำลังคบกันได้ประมาณ 5 เดือน คล้ายจะมาจีบแฟนสาวของตนเองหลายครั้ง ทำให้ตนไม่พอใจ

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ผู้ตายมาขอยืมเงินจากนายเอ็ม 2,000 บาท นำไปแต่งรถจักรยานยนต์ ช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา นายเอ็มบอกว่านัดให้เพื่อนนำเงินมาคืน ขอให้ตนช่วยไปเป็นเพื่อนด้วย ตนจึงพกปืนที่ซื้อมานานแล้วติดตัวไปด้วย โดยไม่ทราบว่าคนที่จะมาใช้หนี้เป็นนายวิศเวช ซึ่งเคยเขม่นกันมาก่อน

จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. นายเอ็มกับนายแจ็คขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกันอยู่ด้านหน้าสุด นายวิศเวชผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เคเอสอาร์ สีขาวดำ ทะเบียน 1 กจ 2840 หนองคาย มาเพียงลำพัง ส่วนตนเพิ่งทะเลาะกันแฟนสาวมาหมาดๆ ได้ขี่รถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งตามหลังมา จังหวะนั้นนายวิศเวชหันหน้ามา ทำให้ตนเห็นว่าเป็นคู่อริจึงโมโห ชักปืนขึ้นมาจะยิงนายวิศเวช แต่รถเกิดตกหลุมทำให้ปืนลั่นยิงไม่ถูก

นายวิศเวชตกใจรีบขี่รถหนีเข้าไปในสวนสับปะรดจนรถเสียหลักล้มลง นายวิศเวชพยายามจะวิ่งหนี นายเอ็ม นายแจ็คได้วิ่งมาช่วยจับตัวและรุมเตะนายวิศเวชกันคนละทีสองที

จากนั้นตนจึงเดินเข้ามาหานายวิศเวช ใช้ด้ามปืนตีท้ายทอย 2 ครั้งจนนายวิศเวชหมดสติ ตนจึงใช้เข่ากดตัวนายวิศเวชไว้แล้วจ่อยิงที่ขมับซ้ายจนเสียชีวิต แล้วพวกตนได้นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งลงสะพานลำห้วยโปร่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน

โดยตนไม่คิดหนี เพราะสักวันหนึ่งต้องถูกจับอยู่ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวสอบสวนอย่างละเอียดและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป