นครพนม - ผู้ว่าฯ นครพนมนำประชาชนบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรก่อนเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟออกพรรษา เผยปีนี้มีเรือไฟไหลโชว์ 14 ลำ ตกแต่งตะเกียงไฟนับแสนดวงเป็นประทีปพุทธบูชาไหลตามลำน้ำโขงเพื่อแสดงความอาลัยถวายแด่ในหลวง ร.๙
สำหรับเรือไฟที่สร้างขึ้นในปีนี้มีทั้งสิ้น 14 ลำ โดยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นเวลานับเดือนในการนำไม้ไผ่กว่า 20,000 ลำมาสร้างเป็นเรือไฟ และประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามด้วยตะเกียงไฟนับแสนดวง มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน ภายใต้แนวคิดที่ว่า แสดงความอาลัยถวายแด่รัชกาลที่ ๙ และแสดงความจงรักภักดี รัชกาลที่ ๑๐ เพื่อเป็นประทีปพุทธบูชาไหลไปตามแม่น้ำโขง
วันนี้ (25 ก.ย.) นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางปัทมา วิทย์ดำรงค์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม ดร.ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่และประชาชนจังหวัดนครพนม ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ประกอบไปด้วย ศาลหลักเมือง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เพื่อขอพรก่อนเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2560
นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ประเพณีไหลเรือไฟเป็นประเพณีเก่าแก่ที่จังหวัดนครพนม จัดขึ้นในช่วงเทศกาลออกพรรษาทุกปี เพื่อเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพญานาคที่คอยปกป้องคุ้มครองทุกคนให้มีความสุขความเจริญ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อแม่น้ำโขงที่ใช้ในการหล่อเลี้ยงชีวิต ตามความเชื่อที่ว่าเป็นการเผาความทุกข์ให้ลอยไปกับสายน้ำ
โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 กันยายน-6 ตุลาคม 2560 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนมและริมฝั่งแม่น้ำโขง สำหรับเรือไฟที่สร้างขึ้นในปีนี้มีทั้งสิ้น 14 ลำ โดยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันเป็นเวลานับเดือนในการนำไม้ไผ่กว่า 20,000 ลำมาสร้างเป็นเรือไฟ และประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามด้วยตะเกียงไฟนับแสนดวง มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน ภายใต้แนวคิดที่ว่า แสดงอาลัยถวายแด่รัชกาลที่ ๙ และแสดงความจงรักภักดีรัชกาลที่ ๑๐ เพื่อเป็นประทีปพุทธบูชาไหลไปตามแม่น้ำโขง
ซึ่งเรือไฟแต่ละลำจะมีความยาวประมาณ 80 เมตร ความสูงประมาณ 30 เมตร ตะเกียงที่นำมาใช้แต่ละลำเฉลี่ยประมาณ 10,000-20,000 ดวง จึงขอเชิญชวนทุกคนทุกท่านมาสัมผัสความงดงามแห่งสายน้ำในช่วงออกพรรษานี้
นอกจากเรือไฟอันยิ่งใหญ่ตระการตาแล้ว ยังมีเรือไฟวิทยาศาสตร์ที่สร้างลวดลายด้วยระบบไฟ LED มาให้ชมความงดงามเพิ่มเติมอีกด้วย รวมไปถึงพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ การลอยกระทงสาย (ไข่พญานาค) การไหลเรือไฟโบราณ การแห่ปราสาทผึ้ง การแสดงวิถีชีวิตคนทำเรือไฟ การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การประกวด TO BE NUMBER ONE การจำหน่ายสินค้า OTOP สินค้าพื้นเมือง กิจกรรมพาข้าวแลง
ส่วนกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คือการทำบุญพร้อมลุ้นชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ TOYOTA รุ่น REVO Smart cap รถจักรยานยนต์ สร้อยคอทองคำ ตู้เย็น จักรยาน ทีวีสี เตาไมโครเวฟ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า และเหรียญพญาศรีสัตตนาคราช กับสลากกาชาดในราคาเพียง 50 บาทเท่านั้น