เศร้าใจสาวใต้ถูกล้วงกระเป๋าขณะมาไหว้พระศิลาขาว ด้านทิศใต้องค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

นครปฐม - คนร้ายก่อเหตุในช่วงคนเข้ามาสักการะองค์พระปฐมเจดีย์จำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ดูแลกล้องวงจรปิดเสียชีวิตยังไม่มีใครมาทำหน้าที่แทน เผยต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจ

วันนี้ (23 ก.ย.) ร.ต.อ.นิวัฒน์ เสียงสาย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจาก น.ส.อังคณา ดำดี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/2 หมู่ 2 ตำบลบางรูป อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และ น.ส.อรยา เกตรัตนัง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 2 ตำบลบางรูป อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ถูกมิจฉาชีพล้วงกระเป๋าขณะมาไหว้พระศิลาขาว ด้านทิศใต้องค์พระปฐมเจดีย์ มีเงินจำนวนประมาณ 4,500 บาท พร้อมธนบัตรฉบับละ 100 บาท ที่ได้เป็นที่ระลึกจากการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ที่สำนักพระราชวัง ส่วน น.ส.อรยา สูญเงิน จำนวน 1,500 บาท รวมถึงเอกสารบัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม

น.ส.อังคณา ดำดี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนได้เดินทางมาพร้อมกับคณะทัวร์ จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นทัวร์ที่คนในหมู่บ้านจัดขึ้น มีผู้ร่วมเดินทางมากว่า 100 คน เพื่อมากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยออกเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มาตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พักค้างคืนที่กรุงเทพฯ 1 คืน และวันนี้ระหว่างเดินทางกลับ ทางคณะทัวร์ได้จอดแวะให้ไหว้พระขอพรที่องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นแห่งที่ 2 โดยรถทัวร์ได้จอดฝั่งหน้าพระศิลาขาว ซึ่งตน และเพื่อนที่โดนล้วงกระเป๋าได้เดินมาพร้อมกัน

โดยจุดที่ถูกล้วงกระเป๋าน่าจะเป็นช่วงที่ตนกำลังนำเงินใส่ตู้เพื่อทำบุญดอกไม้ธูปเทียน ซึ่ง น.ส.อังคณา ผู้เสียหายที่ 1 บอกว่า ขณะที่ตนกำลังนำเงินใส่ตู้ทำบุญอยู่นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ของทางวัดนำดอกบัวมาป้ายที่จมูก และชวนพูดคุยอยู่ราวๆ 3 นาที ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจ และได้เดินไปไหว้พระปิดทองตามปกติ จนเมื่อได้ยินเสียงโฆษกประกาศเตือนให้ระวังมิจฉาชีพล้วงกระเป๋า ตนจึงรีบเปิดกระเป๋าสะพายดูพร้อมกับเพื่อนอีกคน แต่ไม่พบกระเป๋าเงินแล้ว ซึ่งตนก็ได้รีบวิ่งไปบอกโฆษกของทางวัด และแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในบริเวณนั้น แต่กลับได้รับการปฏิเสธ และบอกให้ตนไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดเอง ตนรู้สึกเสียใจ และผิดหวังมาก เพราะเพิ่งเดินทางมาที่จังหวัดนครปฐมเป็นครั้งแรก และตั้งใจเดินทางมากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งตน และเพื่อน จึงได้เดินทางไปที่ สภ. เมืองนครปฐม เพื่อเข้าแจ้งความ

โดยเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเก็บภาพหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมบอกจะเร่งประสานให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ ทั้งนี้ โดยในจุดเกิดเหตุได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงรอบๆ พื้นที่บริเวณวัด แต่เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถเข้ารหัสเพื่อดูย้อนหลังได้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการเข้ารหัสกล้องวงจรปิดเพิ่งเสียชีวิต ยังไม่มีใครทำหน้าทีแทน ซึ่งคงต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้ามาตรวจสอบเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เนื่องจากเหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายให้แก่ทางวัด และเสื่อมเสียชื่อเสียงการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ จังหวัดนครปฐม มีการจัดงานหลายแห่งด้วยกัน ทั้งกิจกรรมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2018 ระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน และวันพรุ่งนี้ก็จะมีการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ซึ่งนครปฐม ยูไนเต็ด เป็นเจ้าบ้านรับการมาเยือนของทีมสงขลา ยูไนเต็ด และยังมีการเปิดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น

โดยจะเป็นช่วงที่มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาที่จังหวัดนครปฐมเป็นจำนวนมาก และอาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งผู้ที่จะเดินทางมาต้องเพิ่มความระมัดระวัง และหมั่นตรวจสอบทรัพย์สินมีค่า เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพ