ชาวบ้านร้องเรียน กอ.รมน. ตรวจสอบโรงผลิตน้ำแข็งก่อเสียงดัง

อ่างทอง - ชาวบ้านร้องเรียน กอ.รมน. ตรวจสอบโรงผลิตน้ำแข็งก่อมลพิษทางเสียง ด้านผู้ประกอบการพร้อมแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (20 ก.ย.) พ.อ.ณัฐพงศ์ วานิกร รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จังหวัดอ่างทอง ได้รับมอบหมายจาก นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผอ.กอ.รมน.จังหวัดอ่างทอง ให้เดินทางไปตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำแข็งออสก้า ตั้งอยู่ริมถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ (สะพานห้วยโพธิ์) หมู่ที่ 6 ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่แรงงาน เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตำรวจ และทหารชุดรักษาความสงบประจำจังหวัดอ่างทอง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าโรงงานดังกล่าวก่อความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ส่งเสียงดังทั้งกลางวัน และกลางคืน ขอให้ตรวจสอบว่าการก่อสร้างโรงงานถูกต้องหรือไม่

หลังจากที่คณะเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบเดินทางไปถึงโรงงานดังกล่าว พบกับ นายณัฐดนัย นิ่มกุล เจ้าของกิจการได้ให้ความร่วมมือในการพาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณรอบๆ โรงงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถาม นายณัฐดนัย เปิดเผยว่า โรงงานผลิตน้ำแข็งของตนเองจะเริ่มทำการผลิตน้ำแข็งเพื่อส่งให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่ 02.00 น. ของทุกวัน และจะหยุดทำการผลิตในเวลา 18.00 น. ซึ่งในช่วงกลางคืนจะมีเพียงเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องเฝ้าอยู่ไม่ได้ปฏิบัติงาน ซึ่งในช่วงเวลาที่ทำการผลิตอาจจะเป็นช่วงเช้ามืด โดยจะมีกระบวนการเลื่อยก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เพื่อนำไปบดให้เป็นน้ำแข็งป่นนำไปขายให้แก่ลูกค้าอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดเสียงดังขึ้นได้ เนื่องจากเป็นช่วงเช้ามืด อาจจะส่งเสียงรบกวนประชาชนที่มีบ้านเรือนใกล้กับโรงงานที่กำลังหลับนอนทำให้ได้รับความรำคาญ แต่อย่างไรก็ดีทางโรงงานก็พร้อมที่จะปรับปรุงไม่ให้มีเสียงดังรบกวนต่อประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง

ด้าน พ.อ.ณัฐพงศ์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำแข็งดังกล่าว หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียง โดยได้ทำการตรวจสอบโรงงานทั้งหมดพบว่า ได้ทำการขออนุญาตตั้งโรงงานอย่างถูกกฎหมาย พร้อมทั้งคนงานบางส่วนที่เป็นแรงงานชาวพม่าก็ได้ทำการขออนุญาตทำงานอย่างถูกกฎหมาย และได้จัดสวัสดิการพร้อมที่พักให้แก่แรงงานอย่างถูกต้อง

แต่จากการตรวจสอบทั้งหมดยังมีเรื่องมลพิษทางเสียง จากเครื่องเลื่อยก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ จึงได้แนะนำให้เจ้าของกิจการเปลี่ยนใบเลื่อยก้อนน้ำแข็งให้มีขนาดฟันถี่ขึ้น เพื่อลดเสียงดังให้น้อยลงภายใน 3 วัน ซึ่งหลังจากนี้จะมาทำการตรวจสอบอีกครั้ง หากพบว่ายังมีเสียงดังของการเลื่อยก้อนน้ำแข็งรบกวน ก็จะให้เจ้าของกิจการทำการสร้างห้องเก็บเสียงในการเลื่อยก้อนน้ำแข็ง เพื่อไม่ให้ส่งเสียงรบกวนประชาชนในพื้นที่ต่อไป