พิษณุโลก - ชลประทานเฝ้าระวังลุ่มน้ำยม เตรียมรับมวลน้ำจากสุโขทัย ขณะที่เขื่อนแควน้อยใกล้เต็ม น้ำในอ่างเพิ่มขึ้นถึงระดับ 95% แล้ว
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ในพื้นที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ยังมีน้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน และพื้นที่เกษตรเขต ต.วังพิกุล ส่วน อ.บางกระทุ่มได้รับน้ำป่าจากคลองชมพู อ.เนินมะปราง ไหลมาสู่คลองเนินกุ่ม สำหรับโซนลุ่มน้ำยมนั้น กำลังถูกจับตาว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำป่าที่ไหลทะลักจาก จ.แพร่ มากน้อยแค่ไหน
ล่าสุดวันนี้กรมชลประทานได้ผันน้ำมาทางแม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมม ก่อนจะประเมินกันว่าพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) จะเกิดผลกระทบต่อบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำยมสายเก่าตั้งแต่ อ.พรหมพิราม, ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.บางระกำหรือไม่
ขณะที่แม่น้ำน่าน ช่วงที่ไหลผ่าน อ.เมืองพิษณุโลก วันนี้ระดับน้ำสูงสุดในรอบปี โดยสถานีวัดระดับน้ำ N 5A เชิงสะพานเอกาทศรถ วัดได้ 7.73 เมตร มีน้ำไหลผ่าน 825 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เทียบกับวันเดียวกันปี 59 แม่น้ำน่านอยู่ในระดับ 6.89 เมตร มีน้ำไหลผ่าน 705 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำน่านจะสูงขึ้นมาก และท่วมบริเวณลานวิ่งชั้นล่างของส่วนชมน่านฯ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวเมืองพิษณุโลก เพราะระดับน้ำยังต่ำกว่าระดับตลิ่งร่วม 3 เมตร และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ งดการระบายน้ำออกสู่แม่น้ำน่าน ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน วันนี้มีปริมาณน้ำ 893.88 ล้าน ลบ.ม. (95.19%) ปริมาณน้ำใช้การ 850.880 ล้าน ลบ.ม. (94.96%) ปริมาณน้ำไหลเข้า 44.110 ล้าน ลบ.ม. (เฉลี่ย 510.53 ลบ.ม./วินาที) ระบายน้ำ 12.312 ล้าน ลบ.ม. (เฉลี่ย 142.5 ลบ.ม/วินาที)
นายเฉลิมศักดิ์ ทักษาดิพงษ์ ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาใน 3-4 วันที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้มีน้ำเข้าเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 40 ล้าน ลบ.ม. โดยเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) มีน้ำไหลเข้า 44 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีน้ำอยู่ที่ 893.88 ล้าน ลบ.ม. หรือ 95.19% ของความจุ หากปริมาณน้ำฝนตกซ้ำอีก คาดว่า 2-3 วันน้ำจะเต็มเขื่อน ล่าสุดยังเปิดประตูระบายน้ำบานใหญ่จำนวน 3 บานตามแผนของกรมชลประทาน โดยยังไม่สามารถปล่อยน้ำเพิ่มได้ เนื่องจากปริมาณน้ำแม่น้ำน่านที่อยู่ใต้เขื่อนแควน้อยมีน้ำปริมาณสูง