ศูนย์ข่าวศรีราชา - วิกฤตขยะเกาะล้านยังไม่คลี่คลาย หลังปริมาณขยะเพิ่มสูงต่อเนื่อง ขณะที่ สม.พัทยา เผยต้องเร่งแก้ไขระหว่างรอผลศึกษาการกำจัดแบบถาวร พร้อมเสนอจัดจ้างเอกชนเข้าบริหารจัดการปัญหาขยะแบบเติมอากาศ โดยใช้ขยะทำเชื้อเพลิงป้อนแหล่งอุตสาหกรรม ระบุมีตัวอย่างหลายพื้นที่ที่ได้ผล
วันนี้ (14 ก.ย.) นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร สมาชิกสภาเมืองพัทยา ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงปัญหาขยะมูลฝอยตกค้างในพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะล้าน เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา ว่า ยังคงเป็นปัญหาที่น่าหนักใจ หลังพบมีขยะตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากจากเดิมที่เคยมีปริมาณขยะตกค้างสะสมกว่า 3 หมื่นตัน
ทั้งนี้ สาเหตุของปัญหามาจากปัญหาการกำจัดและการขนถ่ายจากเกาะสู่ฝั่งด้วยระบบขนส่งทางเรือที่มี ซึ่งแม้ที่ผ่านมา เมืองพัทยาจะอนุมัติงบประมาณเพื่อว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษาแนวทางการกำจัดขยะอย่างถาวรด้วยระบบ “เตาเผาขยะ” แต่ขั้นตอนดังกล่าวก็ยังไม่แล้วเสร็จ ขณะที่ปริมาณขยะก็เริ่มมีมากขึ้น
“ดังนั้น ช่วงนี้จึงควรหาแนวทางลดปริมาณและแก้ไขขยะให้ได้ก่อนที่ระบบจะเดินหน้า ซึ่งช่วงที่ผ่านมา สภาเมืองพัทยา ก็ได้เดินทางไปศึกษาวิธีจัดการปัญหาขยะในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะของภาคเอกชนที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ เทศบาลตำบลหนองเรือ จ.ขอนแก่น โดยพบว่า มีรูปแบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องใช้งบประมาณสูง เนื่องจากไม่ต้องสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ แต่เป็นการกำจัดขยะด้วยวิธีธรรมชาติ คือ เติมอากาศในกองขยะ จากนั้นจะมาทำการคัดแยกเพื่อทำ RDF หรือเชื้อเพลิงจากขยะเหล่านี้ส่งจำหน่ายตามแหล่งอุตสาหกรรม”
โดยในพื้นที่สัตหีบ พบว่า จากปริมาณขยะสะสมกว่าแสนตัน สามารถจัดการให้หมดไปได้ภายในเวลาแค่ 1 ปี จึงเป็นกรณีที่น่าสนใจ ซึ่งจะได้เสนอให้ฝ่ายบริหารเพื่อหารือกันในเร็ววันนี้
นายสินธ์ไชย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้คงตอบได้ว่าปัญหาขยะในพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะล้าน ยังคงมีวิกฤตการณ์อยู่ แต่หากปล่อยไว้ก็คงอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยว สภาจึงเสนอให้มีการแก้ไขเบื้องต้นด้วยระบบการเติมอากาศ ซึ่งแม้จะใช้งบประมาณบ้างแต่ก็เพื่อลดปัญหา เพราะที่ผ่านมา เมืองพัทยาใช้งบประมาณไปในโครงการที่ไม่เร่งด่วน หรือมีความจำเป็นเร่งด่วนเป็นจำนวนมากเช่นกัน