บุรีรัมย์ - ชุดพิทักษ์บุรีรัมย์ขยายผลรวบยกแก๊ง 6 ผู้ต้องหานักค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5,000 เม็ด กัญชากว่า 2 กก. และอาวุธปืน เผยแม้จะไม่ใช่ผู้ค้ารายใหญ่แต่มีการขยายเครือข่ายในกลุ่มวัยรุ่น เยาวชนมากขึ้นจึงต้องกวาดล้างจับกุมเข้มข้น ทั้งพบแก๊งค้ายาปรับเปลี่ยนรูปแบบฟอกเงินหันซื้อวัวควายเป็นฝูงใหญ่แทนทรัพย์สินมีค่าอื่น เพื่อหลบเลี่ยงตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดทรัพย์
วันนี้ (13 ก.ย.) นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, พ.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
ภายหลังชุดพิทักษ์บุรีรัมย์ ประกอบด้วย ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ตชด.ได้สนธิกำลังขยายผลจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำยาบ้า และกัญชาเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน คือ นายอลงกร ประจัญบาน อายุ 18 ปี และนายธันวา ดำหริ อายุ 25 ปี ก่อนจะขยายผลรวบเพิ่มอีก 4 คน คือ นายสินชัย นาคสังข์ อายุ 20 ปี, นายธีรพงษ์ เจียดรัมย์ อายุ 18 ปี นายวิชัย สลุพพล อายุ 46 ปี และนายเลิศชัย มูลกุล อายุ 28 ปี
พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5,000 เม็ด กัญชากว่า 2 กิโลกรัม อาวุธปืน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง โดยผู้ต้องหาทั้ง 6 คนถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครองโดยผิดกฎหมาย” และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการฟอกเงินที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติด โดยใช้วิธีการซื้อวัว ควาย หรือสัตว์เลี้ยงเป็นฝูงใหญ่ แทนการซื้อทรัพย์สินประเภทอื่น เช่น บ้าน รถยนต์ราคาแพงๆ เพื่อเป็นการหลบเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดทรัพย์
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดในครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันของชุดพิทักษ์บุรีรัมย์ ซึ่งถึงแม้ไม่ใช่ผู้ค้ารายใหญ่และของกลางจำนวนไม่มากแต่จากพฤติการณ์น่าเป็นห่วง เพราะมีการหลอกล่อกลุ่มวัยรุ่น เยาวชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นภัยต่อสังคม จึงต้องการให้มีการกวาดล้างปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่องจริงจัง และขยายผลจับกุมขบวนการใหญ่หรือผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
