เพชรบูรณ์ - แม่ทัพภาคที่ 3 ยกคณะเกาะติดเหตุระเบิดภูทับเบิก ปิดห้องประชุมลับฝ่ายความมั่นคงเกือบ 2 ชม. ก่อนลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุละเอียดยิบ หลังแนวทางสืบสวนพุ่งเป้าบึ้มสังหารเจ้าหน้าที่-พัวพันรื้อรีสอร์ต ด้าน EOD ส่งเทปพันสายไฟตรวจดีเอ็นเอ-ลายนิ้วมือ แกะรอยคนร้ายอีกทาง
วันนี้ (12 ก.ย.) พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และ ผบ.กกล.รส.ทภ.3 พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า โดยปิดห้องประชุมลับที่ ศปก.สภ.หล่มเก่า เพื่อรับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์และความคืบหน้าคดีดังกล่าว
โดยมี พล.ต.ต.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผบ.พล.ม.1 และ ผบ.กกล.รส.จ.เพชรบูรณ์, นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และ พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ เข้าร่วมประชุมนานเกือบ 2 ชั่วโมง
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณสามแยกเข้าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า โดยมี พ.ท.อมร พิมพ์สี ผบ.ช.พัน.8 ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด (EOD) ให้รายละเอียดถึงการเก็บกู้เศษวัสดุและชิ้นส่วนวัตถุระเบิด เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานสำหรับเชื่อมโยงในการดำเนินคดีคนร้าย
หลังจากแนวทางสืบสวนสอบสวน ทั้งของเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายสืบสวนสอบสวนให้น้ำหนักไปที่ประเด็นเป้าหมายคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องเพื่อสังหารเจ้าหน้าที่ โดยพุ่งปมสาเหตุจากเรื่องการรื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก
พล.ท.วิจักขฐ์ได้เดินตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมให้ข้อสมมติฐานว่า หากคนร้ายใช้ระบบจุดชนวนระเบิดด้วยไฟฟ้าจะต้องพยายามหาแหล่งพลังงานที่คนร้ายทิ้งร่องร่อยไว้ และยังให้ไปวิเคราะห์จุดที่คนร้ายลงมือ หรือจุดที่เหยื่อประสบเหตุด้วย
ทั้งนี้ยังมีรายงานแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ชุด EOD และเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานพบสกอตเทปพันสายไฟฟ้า จึงจัดเก็บเพื่อนำส่งพิสูจน์ลายนิ้วมือ และตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อหาเบาะแสอีกทางหนึ่งด้วย
