xs
xsm
sm
md
lg

10 ล้อบรรทุกปูนเบรกแตกชนท้ายระนาว 6 คันรวด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - 10 ล้อบรรทุกปูนเบรกแตกชนท้ายระนาว 6 คันรวด กลางสามแยกวุ่นวายในตัวเมืองแปดริ้ว โชคดีไม่มีคนเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ขณะโชเฟอร์รถบรรทุกยอมรับผิด ระบุระบบเบรกมีปัญหาจึงทำให้เบรกหยุดตัวรถไว้ไม่อยู่ พร้อมเตรียมเรียกให้ประกันภัยเข้ามาดูแลชดใช้แก่คู่กรณีทั้ง 5 ราย

วันนี้ (12 ก.ย) ร.ต.อ.พุทธิพงษ์ ชื่นชม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน ที่บริเวณสามแยกสัญญาณไฟเทศบาล 2 (แยกเข้าวัดโสธร) บนถนน 314 (สิริโสธร) ฉะเชิงเทรา-บางปะกง เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกคอนกรีตผสมเสร็จ (รถโม่ปูน) ขนาด 10 ล้อ คันสีขาว หมายเลขทะเบียน 82-7485 ฉะเชิงเทรา พุ่งเข้าชนด้านท้ายของรถตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน 33-4492 กทม. และชนต่อเนื่องกันเป็นแถวยาวไปจนถึงรถยนต์คันหน้าสุดที่กำลังจอดติดสัญญาณไฟแดง ประกอบด้วย ด้านหน้าของรถตู้ได้พุ่งชนเข้ากับด้านท้ายของรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน บบ 7949 ฉะเชิงเทรา โดยด้านหน้าของรถกระบะ ได้พุ่งชนเข้ากับท้ายรถตุ๊กตุ๊ก ทะเบียน สก 635 ฉะเชิงเทรา

ขณะที่รถตุ๊กตุ๊กได้พุ่งชนเข้ากับท้ายรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน ฒฌ 5348 กทม. และรถยนต์กระบะได้พุ่งเข้าชนด้านท้ายของรถยนต์เก๋งโตโยต้า แคมรี่ สีเทา ทะเบียน ชพ 9508 กทม.

สอบถาม นายประทีป เซ็นทองหลาง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.14 ต.เมืองฝาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ คนขับรถยนต์ 10 ล้อ กล่าวว่า ได้ขับรถออกมาจากโรงผสมคอนกรีตในเขตพื้นที่ ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ เพื่อที่จะนำไปส่งในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทรา เมื่อขับรถมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางสามแยกสัญญาณไฟได้เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ แต่เมื่อเหยียบเบรกไปแล้วตัวรถกลับเบรกไม่อยู่ จึงได้พยายามเหยียบซ้ำอีกหลายครั้งแต่ก็ยังมีแต่ความว่างเปล่า จึงทำให้ตัวรถพุ่งเข้าชนกับท้ายของรถตู้ และทำให้เกิดการชนกระแทกไหลไปพุ่งชนกันกับรถอีกหลายคัน ซึ่งในเบื้องต้นนั้น รถคันที่ตนขับมามีการทำประกันภัยเอาไว้ด้วย นายประทีป กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.พุทธิพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นในที่เกิดเหตุนั้นมีรถพุ่งชนกันรวม 6 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 ราย ที่นั่งมาในรถตู้ ได้ถูกนำส่งไปโรงพยาบาลพุทธโสธรแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นรถบรรทุกปูนได้พุ่งเข้าชนด้านท้ายของรถตู้ ก่อนที่จะเกิดการพุ่งชนท้ายกันอีกจำนวนหลายคัน ซึ่งต้องรอการตรวจสอบก่อนว่า เกิดจากสาเหตุอะไร โดยรถยนต์คันด้านหลังสุดนั้นได้ยอมรับผิดว่าเป็นฝ่ายขับรถเข้ามาพุ่งชนรถคันหน้าก่อน ร.ต.อ.พุทธิพงษ์ กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น