ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาหารือร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการจัดทำประกันภัยสำหรับผู้ประกอบการซีวอล์กเกอร์ และแพลากร่ม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และยกระดับสร้างความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างทำกิจกรรม
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ภพอนันฒ์ เหลืองภานุวัฒน์ รองประธานสภาเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการจัดทำประกันภัยสำหรับผู้ประกอบการซีวอล์กเกอร์ และแพลากล่ม โดยมีตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง นายชาคร กัญจนะวัตตะ สมาชิกสภาเมืองพัทยา นายเอกราช คันทโร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร.ต.สุวิทย์ ลากลาง ผู้บังคับหมวดกองร้อยรักษาความสงบ อ.บางละมุง และผู้แทนตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าร่วมหารือ
สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และสถานีตำรวจท่องเที่ยวที่มีพื้นที่รับผิดชอบทางทะเล และเกาะแก่งต่างๆ ที่มีการประกอบการเกี่ยวกับเครื่องเล่นทางน้ำ ให้ดำเนินการตรวจสอบ และยกระดับมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัย เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของกิจกรรมทางทะเลที่มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะกิจกรรมดำน้ำซีวอล์กเกอร์ และแพลากร่ม
การประชุมในครั้งนี้จึงเป็นการร่วมกันหารือถึงแนวทางในการจัดทำประกันภัยเพื่อรองรับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อชีวิต และร่างกายของนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ในระหว่างที่เจ้าท่ากำลังอยู่ในขั้นตอนของการร่างกฎหมายเพื่อเสนอเป็นฎหมายบังคับควบคุมการประกอบการ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ต้องดำเนินการให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงมีความห่วงใยด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ จึงต้องทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือต่อผู้ประกอบการให้ดำเนินการจัดทำประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวทางทะเลของเมืองพัทยาให้มีคุณภาพ และมีความปลอดภัย
ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลของตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ทราบว่า มีผู้ประกอบการซีวอล์กเกอร์ 17 ราย และผู้ประกอบการแพลากร่ม จำนวน 17 ราย ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการแล้ว พร้อมทั้งได้มีการประสานงานไปยังบริษัทประกันภัย เพื่อเสนอแนวทางการทำประกันภัย รวมถึงรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ
โดยทางบริษัทประกันภัยได้ให้แนวทางว่า ผู้ประกอบการต้องทำประกันภัยเป็นรายปีโดยคิดเบี้ยประกันจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการของแต่ละเจ้า ในวงเงินคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 200,000 บาท และกรณีได้รับบาดเจ็บ 100,000 บาท ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวจะนำรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการให้ได้รับทราบ และรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กันยายนนี้