หนองคาย - สองผัวเมียชาวชุมแพ ขอนแก่น บึ่งกระบะมารับยาบ้าจากคนลาวเกือบสองพันเม็ด ขากลับเจอตำรวจหนองคายตั้งด่านตรวจ ค้นในรถเจอคาหนังคาเขา สารภาพเปิดร้านขายกาแฟไม่รุ่ง เลยหันมารับยาบ้าไปขาย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 ก.ย.) พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย สวป.หัวหน้าด่านตรวจหนองสองห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหนองสองห้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายสุขสวรรค์ สุดตา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/3 หมู่ 9 ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และนางสาวปาริษา สายสังข์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 หมู่ 17 ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สองสามีภรรยา พร้อมของกลางยาบ้า 1,990 เม็ด รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ แบบแค็บ สีเทา ทะเบียน ถม 5568 กรุงเทพมหานคร
พ.ต.ท.อรรถศักดิ์ ศิริพานิช รอง ผกก.(ป.) กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันเดียวกันนี้ พ.ต.ต.ปวิช อุราสาย ได้นำเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจบนถนนมิตรภาพ ขาออก จ.หนองคาย มุ่งหน้าไป จ.อุดรธานี ตามปกติ และพบรถกระบะที่นายสุขสวรรค์ ขับมา มีนางสาวปาริษานั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจ ปรากฏว่านายสุขสวรรค์ท่าทางมีพิรุธ หน้าตาซีดเผือด
เจ้าหน้าที่ค้นบริเวณช่องเก็บของระหว่างเบาะคนขับกับผู้โดยสารด้านหน้า พบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกซุกซ่อนอยู่ จึงควบคุมตัวทั้งสองคนไว้
จากการสอบสวนนายสุขสวรรค์ให้การรับสารภาพว่าตนกับภรรยาเปิดร้านขายกาแฟ อยู่ใกล้กับ สภ.ชุมแพ แต่กิจการไม่ค่อยดีจึงอยากหารายได้เพิ่ม จนมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับชายคนลาวไม่ทราบชื่อคนหนึ่ง ติดต่อซื้อยาบ้ากันจำนวน 2,000 เม็ด โดยยังไม่ได้ตกลงราคา และคนลาวนัดให้มารับยาบ้าบริเวณศาลารอรถหน้าโรงพยาบาลโพนพิสัย จ.หนองคาย ตนจึงชวนภรรยามาด้วย
โดยหลอกว่าจะพามาเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลโพนพิสัย และนางสาวปาริษาไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งมาถึงสถานที่นัดหมายก็พบคนลาวมารออยู่ก่อนแล้วและนำยาบ้ายื่นให้ จากนั้นจึงขับรถกลับ หวังจะนำยาบ้าไปขายให้วัยรุ่นในละแวกบ้าน
ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยเสพยาบ้าแต่ปัจจุบันเลิกแล้ว ส่วนนางสาวปาริษายืนยันว่าไม่รู้จริงๆ ว่านายสุขสวรรค์จะพามารับยาบ้า จนเห็นมีการส่งมอบยาบ้ากันแล้วจึงตกกระไดพลอยโจน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป